"ในการจัดการโครงการนี้จะมีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นคณะทำงานหลัก โดยตั้งคณะทำงานมาชุดหนึ่งมีอธิการบดี รองอธิการบดีฝ่ายทรัพยากรบุคคล เป็นที่ปรึกษา ต่อจากนั้นจะลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันในลำดับถัดไป"
ทั้งนี้แผนการพัฒนาระบบข้อมูลภูมิคุ้มกันฯ แบ่งเป็นทั้งหมด 2 ระยะหลัก ระยะที่ 1 เป็นการพัฒนาระบบข้อมูลภูมิคุ้มกันฯ เพื่อใช้ในบุคลากรทางการแพทย์ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ระยะที่ 2 ขยายระบบข้อมูลภูมิคุ้มกันฯ เพื่อใช้สำหรับบุคลากรทั้งหมดของมหาวิทยาลัยขอนแก่น อย่างไรก็ตาม ระบบข้อมูลภูมิคุ้มกันฯ เมื่อพัฒนาเสร็จสมบูรณ์แล้วสามารถขยายผลเพื่อใช้สำหรับนักศึกษาและประชาชนทั่วไปได้
ด้านนายแพทย์ธนภพ ณ นครพนม นักวิชาการด้านสารสนเทศสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวถึงระบบข้อมูลภูมิคุ้มกันฯ ว่า เป็นระบบดิจิทัลที่ต้องการพัฒนาให้บุคลากรมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยระบบจะบันทึก จัดเก็บ และตรวจสอบข้อมูลการให้วัคซีน ซึ่งจะมีประโยชน์กับทั้งผู้ได้รับวัคซีนและผู้ให้บริการวัคซีน โดยมีฟังก์ชันการทำงานที่สำคัญ อาทิ
- ระบบจัดเก็บและบันทึกข้อมูลของภูมิคุมกัน โดยสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทั้งผู้ได้รับวัคซีนและผู้ให้บริการวัคซีน
- ระบบช่วยวิเคราะห์ประเภทวัคซีนที่จำเป็นและเหมาะสมรายบุคคล โดยพิจารณาจากข้อมูลของผู้รับวัคซีน เช่น วัคซีนที่จำเป็นสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสสารคัดหลั่งที่อาจก่อให้เกิดโรคติดเชื้อ รวมไปถึงการแจ้งเตือนการรับวัคซีน วันและเวลาในการรับวัคซีนครั้งถัดไป
- ระบบออกใบรับรองการได้รับวัคซีน (vaccination certificate)
- ระบบติดตามเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ภายหลังการได้รับวัคซีน
- การให้ความรู้เกี่ยวกับวัคซีน เช่น ความเสี่ยงและประโยชน์ของการรับวัคซีน
ระบบข้อมูลภูมิคุ้มกันฯ นี้จะพัฒนาโดยอ้างอิงแนวทางขององค์การอนามัยโลก Centers for Disease Control and Prevention ประเทศสหรัฐอเมริกา และ European Centre for Disease Prevention and Control สหภาพยุโรป และพัฒนาบนมาตรฐานข้อมูลสุขภาพ HL7 FHIR มาตรฐาน W3C Verifiable Credential
ที่มา: มหาวิทยาลัยขอนแก่น