สำหรับกลุ่มหุ้นวัฎจักรยังได้อานิสงค์บวกได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ พลังงาน ส่งออก ยังโดดเด่น การฟื้นตัวของสหรัฐฯซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก เป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งอาจสะท้อนได้สองแง่มุมต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยในระยะสั้น : แนวโน้มตลาดหุ้นจะยังได้อานิสงค์บวกจากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแรงหนุนด้านอุปสงค์ที่จะช่วยพยุงราคาน้ำมันดิบให้ทรงตัวในระดับสูง และคาดว่าจะยังเห็นการ Rotation จากสินทรัพย์ปลอดภัย ไปสู่ "สินทรัพย์เสี่ยง" ระยะกลาง : ต้องเริ่มระมัดระวัง เนื่องจากตลาดหุ้นก็ถือเป็นหนึ่งใน Leading Indicator ของเศรษฐกิจ ก็ถือว่าตอบรับภาพดังกล่าวมาแล้วระดับหนึ่ง ทำให้การลงทุนหลังจากนี้อาจจะ "ไม่ง่าย" และในระยะถัดไปอาจจะเริ่มเห็นการ Selective มากขึ้น โดยให้น้ำหนักไปที่ประเทศที่เศรษฐกิจฟื้นตัว และการกระจายของวัคซีนทำได้เร็ว
หุ้นกลุ่มวัฎจักร (Cyclical Stock) โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นกลุ่มที่ได้ว่าได้ประโยชน์โดยตรงจากแนวโน้มเงินเฟ้อ-ดอกเบี้ย ที่ปรับตัวขึ้น และกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่ฟื้นตัวได้เร็ว ยังคงโดดเด่นที่สุด ได้แก่
- ธนาคารพาณิชย์: การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ จะนำไปสู่แนวโน้มดอกเบี้ยที่เริ่มปรับตัวขึ้น (คาดว่า NIM จะผ่านพ้นจุดต่ำสุดในช่วงครึ่งปีหลัง) และความเสี่ยงของคุณภาพสินทรัพย์ลดลง ซึ่งมองว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่จะได้ประโยชน์มากที่สุด (KBANK)
- พลังงาน : การฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรม เป็นปัจจัยหนุนด้านอุปสงค์ของการใช้พลังงาน น้ำมันดิบ (PTTEP TOP)
- ส่งออก: กลุ่มอิเล็คโทรนิกส์และกลุ่มอาหาร สินค้าส่งออกสำคัญของไทย ซึ่งในปี 2021 สภาพัฒน์คาดว่าการส่งออกจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทย สอดคล้องกับสัญญาณการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโลก การค้าระหว่างประเทศ (KCE ฟื้นตัวตามอุตสาหกรรมยานยนต์, CPF อานิสงค์บวกจากอุปทานสุกรที่ยังจำกัด หนุนราคาทรงตัวระดับสูง)
ที่มา: บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)