CGD กลับมาผงาดปี 64 มั่นใจพลิกโชว์กำไร หลังปรับลดหนี้ - ต้นทุนทางการเงินลดลง มีสินทรัพย์ พร้อมโอนและรับรู้รายได้ทันที 1.6 หมื่นลบ.

อังคาร ๐๒ มีนาคม ๒๐๒๑ ๑๔:๔๔
CGD เดินหน้าสร้างศักยภาพ กางหมุดปี 64 ธุรกิจสดใส ผลประกอบการปรับตัวดีและกลับมามีกำไร หลังบริหารจัดการเคลียร์หนี้เสร็จสิ้น ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินลดลง ฟากซีอีโอ "เบน เตชะอุบล" ระบุจากนี้จะเห็นการเติบโตอย่างมั่นคง ปัจจุบันมีสินทรัพย์ พร้อมโอนและรับรู้รายได้ ทันทีกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท จากโครงการโฟร์ซีซั่นส์ไพรเวทเรสซิเดนซ์ สนับสนุนการเพิ่มรายได้-กำไร และผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้น

นายเบน เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (CGD) ผู้พัฒนาโครงการ "เจ้าพระยา เอสเตท" โครงการมิกส์ยูสที่มีทั้งคอนโดมิเนียมและโรงแรมระดับ 5 ดาวสองแห่ง มูลค่าโครงการรวมกว่า 32,000 ล้านบาท เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2564 จะกลับมีทิศทางที่ดีจากปี 2563 ที่มีผลการขาดทุนลดลงเมื่อเทียบกับปี 2562 เนื่องจาก บริษัทจะนำเงินจากการขายสินทรัพย์ คือกลุ่มธุรกิจโรงแรมซึ่งประกอบธุรกิจโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ และธุรกิจโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ริมน้ำเจ้าพระยาให้กับ บริษัทผาแดงอินดัสทรี (PDI) ซึ่งอยู่ในกลุ่ม CGH

ไปชำระคืนหนี้สิน ส่งผลให้ลดต้นทุนทางการเงินเสริมสร้างความแข็งแกร่งของงบดุล อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มศักยภาพต่อการปรับตัวรับสถานการณ์ต่าง ๆ และรองรับธุรกิจในอนาคต ของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งธุรกรรมดังกล่าวเป็นการปรับโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มและเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเงินทุน

ทั้งนี้ บริษัทฯคาดว่าแนวโน้มธุรกิจ รวมทั้งผลประกอบการจะกลับมาดีขึ้นและมีกำไรได้ในปี 2564 ขณะที่โครงการโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ มียอดพร้อมโอนมูลค่าราว 16,000 ล้านบาท ซึ่งทยอยโอนมาตั้งแต่ไตรมาส 4/62 ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทมีเงินทุนหมุนเวียน สภาพคล่องได้เป็นอย่างดีในการพัฒนาโครงการในอนาคต โดยจะสามารถรักษาระดับกำไรขั้นต้นของโครงการไว้ในระดับสูง ที่เฉลี่ยที่ผ่านมาอยู่ที่ 53%

"การบริหารจัดการฐานะทางการเงินในเชิงรุงตามแผนการที่วางไว้ ประกอบกับสินทรัพย์พร้อมโอนจะทำให้บริษัทเติบโตได้อย่างมั่นคง โดย CGD สามารถใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินและแบรนด์ที่มีคุณภาพสูง เป็นที่รู้จักเพื่อเพิ่มรายได้ กำไร และผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยเชื่อมั่นว่าบริษัทจะมีความแข็งแกร่งและความสามารถในการปรับตัวรับกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ"

เขากล่าวต่อว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี2563 มีทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 406 ล้านบาท เทียบกับขาดทุนสุทธิ 434 ล้านบาทในปี 2562 โดยส่วนใหญ่เกิดจากการรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่า 740 ล้านบาทจากการจำหน่ายธุรกิจโรงแรมซึ่งเป็นการขาดทุนทางบัญชีเท่านั้นและไม่ส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดของบริษัท

อย่างไรก็ตามหากไม่รวมผลขาดทุนจากการด้อยค่า CGD จะมีกำไรก่อนภาษีเงินได้เท่ากับ 460 ล้านบาทในปี 2563 หรือเพิ่มขึ้น 218% จากปี 2562 ซึ่งการเข้าทำรายการดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญของแผนการบริหารจัดการเชิงรุกในการสร้างความแข็งแกร่งของโครงสร้างเงินทุน และเพิ่มสภาพคล่อง ทั้งนี้ธุรกรรมดังกล่าวได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากผู้ถือหุ้นโดยได้รับการอนุมัติเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2564

ที่มา: คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ