ดร.รินใจ ชาครพิพัฒน์ กล่าวว่า "ประเทศไทยกำลังเผชิญกับภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ที่เกิดขึ้นทั้งจากสงครามการค้าและสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผู้ประกอบการ SMEs ที่ดำเนินธุรกิจด้านการนำเข้าและส่งออก หากไม่มีเครื่องมือในการบริหารจัดการความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ดี อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจได้ ซึ่งSMEs ส่วนใหญ่ในประเทศไทย ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและเครื่องมือจัดการความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน TFEX และธนาคารกรุงไทย จึงมุ่งสนับสนุนผู้ประกอบการกลุ่มดังกล่าว ให้มีทางเลือกในการบริหารจัดการความเสี่ยงจากค่าเงินที่มีประสิทธิภาพและสามารถเข้าถึงได้ ผ่านการทำธุรกรรมซื้อหรือขายสัญญาซื้อขายดอลลาร์ล่วงหน้า (USD Futures) ใน TFEX เพื่อล็อคอัตราแลกเปลี่ยนไว้เป็นการล่วงหน้า แล้วสามารถแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์กับธนาคารกรุงไทยได้ทุกวันทำการ"
นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ เปิดเผยว่า "บริการแลกดอลลาร์รายวัน USD Futures on Blockchain นับเป็นการเชื่อมภาคธนาคารและตลาดทุนเข้าด้วยกันผ่านนวัตกรรม Blockchain เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs มีทางเลือกในการบริหารความเสี่ยงด้านค่าเงิน โดยสามารถล็อคอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อให้ผู้ส่งออกหรือนำเข้า มีต้นทุนโดยรวมของอัตราแลกเปลี่ยนคงที่เสมอ เพื่อป้องกันผลกระทบจากความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน โดยผู้ประกอบการ SMEs สามารถเปิดบัญชีเงินฝากสกุลต่างประเทศ (FCD) ธนาคารกรุงไทย เพื่อรองรับการรับและตัดเงินจากบริการ และทำรายการแลกเงินด้วยตนเองผ่าน www.jedi.krungthai.com ซึ่งธนาคารเชื่อมั่นว่า บริการส่งมอบดอลลาร์จาก USD Futures โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ธนาคารกรุงไทย และตลาด TFEX มุ่งมั่นพัฒนาร่วมกันแบบ Total Solution เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ USD Futures ในการป้องกันความเสี่ยงให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่ปัจจุบันประสบปัญหาจากค่าเงินบาทที่ผันผวน"
สำหรับผู้สนใจใช้บริการดังกล่าวสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ Krungthai Corporate FX Sales 0-2208-4646หรือ ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) โทร. 0-2009-9999 และดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=1uaLI8GWOLI&feature=youtu.be
ที่มา: ธนาคารกรุงไทย