ศาสตราจารย์ นฤมล กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง อาทิ คนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มอบหมายหมายให้เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพื่อให้แรงงานกลุ่มดังกล่าว ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงครอบคลุมทุกพื้นที่ และสิ่งสำคัญคือต้องรวดเร็วทันต่อความต้องการ ซึ่งการประชุมในวันนี้ เป็นการหารือของคณะอนุกรรมการพัฒนาทักษะฝีมือคนพิการเพื่อรองรับการประกอบอาชีพ ครั้งที่ 1/2564
โดยที่ประชุมได้รายงานผลการส่งเสริมให้สถานประกอบการและหน่วยงานภาครัฐดำเนินการ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556 และการดำเนินงานกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการและหลักเกณฑ์การกู้ยืม เงินกองทุน กำหนดการจัดงานแข่งขันฝีมือคนพิการแห่งชาติครั้งที่ 10 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 7-8 พฤษภาคม 2564 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี มีการแข่งขันทั้งหมด 15 สาขา นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาด้วย ได้แก่ การจัดทำแผนพัฒนาทักษะฝีมือคนพิการเพื่อรองรับการประกอบอาชีพ (พ.ศ. 2564 - พ.ศ. 2570) ข้อเสนอโครงการภายใต้แผนงาน/โครงการ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อแก้ไขปัญหาการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 และการเชิญชวนให้สถานประกอบกิจการ จัดทำ CSR ด้านคนพิการ
รมช.แรงงาน กล่าวต่อว่า คณะอนุกรรมการชุดนี้ ได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ หรือ กพร.ปช. เพื่อร่วมกันหาแนวทางในการพัฒนาทักษะฝีมือให้แก่คนพิการ รวมไปถึงการจัดหางานให้แก่คนพิการด้วย โดยมีตัวแทนจากหลายกระทรวง เช่น ผู้แทนจากการอุดมศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กองส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และกลุ่มสมาคมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคนพิการ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีผู้แทนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานร่วมเป็นคณะอนุกรรมการด้วย ได้แก่ อธิบดีกรมการจัดหางาน อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน โดยมีอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นเลขานุการ
"ทุกภาคส่วนต้องมีส่วนร่วม เพื่อขับเคลื่อนการช่วยเหลือคนพิการและผู้ดูแลคนพิการ ให้ได้รับโอกาสเข้าถึงบริการของรัฐให้มากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม การดำเนินงานดังกล่าวต้องทำอย่างต่อเนื่อง ขอให้ทุกฝ่ายบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็ง เพื่อประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน" รมช.แรงงาน กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: กระทรวงแรงงาน