ทั้งนี้ การเข้ามาเสริมทัพให้กับบริษัท บลูบิค กรุ๊ป ซึ่งมีบุคลากรมากประสบการณ์กว่า 130 คน ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน จะช่วยให้บริษัทสามารถส่งมอบและขยายบริการในการทรานส์ฟอร์มองค์กรได้อย่างครบวงจรมากขึ้น โดยการทำ Marketing Transformation จะรับผิดชอบตั้งแต่การวางแผน วิเคราะห์ และยกระดับกระบวนการบริหารงานด้านการตลาดทั้งบนช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ให้เชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อโดยใช้เทคโนโลยีที่ทำได้จริง
"จุดแข็งของบลูบิค คือการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน ที่ขับเคลื่อนด้วยสมองซีกซ้าย มุ่งเน้นเรื่องการวางกลยุทธ์และการคิดวิเคราะห์เป็นหลัก แต่จากนี้ไป ผมซึ่งถือเป็นตัวแทนสมองซีกขวา จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนให้การทรานส์ฟอร์มสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ในแง่การเป็นที่ปรึกษาช่วยวางกลยุทธ์การตลาด ซึ่งจะครอบคลุม 4 แกนหลัก ได้แก่ การทรานส์ฟอร์มรูปแบบการทำงาน (Marketing Transformation) การสร้างแบรนด์ในยุคใหม่ (New Era Branding) การสื่อสารการตลาดไร้รอยต่อ (Seamless Communication) และการตลาดยุค 5.0 (Marketing 5.0) เพื่อช่วยให้ลูกค้าเปลี่ยนผ่านไปสู่การทำธุรกิจในยุคดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ เปรียบเสมือนการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (Trusted Partner)" สโรจ กล่าว
บี สโรจ มีประสบการณ์การทำงานด้านการตลาดมากว่า 12 ปี โดยก่อนเข้ามาร่วมงานกับบลูบิค กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งและเคยดำรงตำแหน่ง Chief Marketing Officer ของ Rabbit Digital Group ดิจิทัลเอเจนซีที่สามารถคว้ารางวัล Top 10 Hottest Agency in Thailand 2020 มาครองจากการจัดอันดับของ Campaign Brief Asia อีกทั้งมีโอกาสได้ดูแลแบรนด์สินค้าระดับโลกในเครือยูนิลีเวอร์ และบริษัทดิอาจิโอ คว้ารางวัลด้านการตลาดจากองค์กรชั้นนำ อาทิ ADMAN Awards จากสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย และรางวัลในเวทีระดับโลกอย่าง Spike Asia, Adfest Awards รวมไปถึงรางวัล Young Achiever Gold Awards 2016 จากสมาคมการตลาดดิจิทัลแห่งประเทศไทยหรือ DAAT อีกด้วย นอกจากนี้ยังถูกจัดอันดับให้เป็นผู้มีอิทธิพลทางความคิดในมุมของนักการตลาดอีกด้วย
ที่มา: บลูบิค กรุ๊ป