สนพ.จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นต่อแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมีระยะที่ 4 ในพื้นที่ EEC

พฤหัส ๐๔ มีนาคม ๒๐๒๑ ๑๕:๔๕
วันที่ 4 มีนาคม 2564 สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน จัดงานสัมมนารับฟังความคิดเห็น "โครงการศึกษากรอบแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมีระยะที่ 4 ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกและพื้นที่ที่มีศักยภาพเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคต" ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยโดยใช้อุตสาหกรรมปิโตรเคมีเป็นแกนหลัก หวังกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตหลังเกิดวิกฤติโควิด-19

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า " ปิโตรเคมีมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำที่ก่อให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่น ๆ อีกมากมาย โดยที่ผ่านมาประเทศไทยมีการพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมีมานานกว่า 40 ปี และเป็นอุตสาหกรรมแรกของประเทศที่มีแผนแม่บทการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างเป็นระบบ  ตั้งแต่ปี 2523 อยู่ในการพัฒนาระยะที่ 4 ในช่วงปี 2561-2580

นอกจากนี้ ประเทศไทยได้กำหนดการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย (New S-Curve) ในอนาคต เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยภายใต้แนวคิด Thailand 4.0 ผ่านโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งต้องอาศัยการพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างฐานการผลิตวัตถุดิบให้กับอุตสาหกรรมใหม่ และประเทศไทยยังมีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เคมีและพลาสติกที่มีคุณสมบัติพิเศษมากขึ้นและมีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยต้องนำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในรูปแบบเคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติกหรือผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ดังนั้น การพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในระยะต่อไป จำเป็นที่จะต้องต่อยอดพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเพิ่มเติมจากฐานที่มีในปัจจุบันเพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายในอนาคต"

สนพ.จึงได้มอบหมายให้สถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (PTIT) เป็นที่ปรึกษาดำเนินโครงการศึกษากรอบแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมีระยะที่ 4 ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก หรือ EEC และพื้นที่อื่นที่มีศักยภาพเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคต หรือการจัดทำแผนพัฒนาปิโตรเคมีระยะที่ 4 เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนและสร้างฐานทางเศรษฐกิจใหม่ให้ประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงานที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ

 โดยที่ผ่านมา  สนพ. และ PTIT ได้จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นในเรื่องนี้มาแล้วถึง 4 ครั้ง โดยเริ่มตั้งแต่การนำเสนอแนวคิด ภาพรวมและแนวทางของการศึกษา จนได้มาซึ่งแนวคิดการพัฒนาคลัสเตอร์อุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงปิโตรเลียมและปิโตรเคมีกับการเกษตร ไปจนถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับการลงทุน 3 กลุ่ม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ผลิตภัณฑ์เคมีเสริม และผลิตภัณฑ์ชีวภาพ รวมไปถึงพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับ 3 กลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าว ทั้งใน EEC และพื้นที่ใหม่สำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมีระยะยาว ซึ่งจะต้องมีหน่วยงานเจ้าภาพมาดูแลการบริหารจัดการพื้นที่ควบคู่กันไปกับการเตรียมความพร้อมก่อนการพัฒนาอุตสาหกรรม เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว และกระจายรายได้ไปยังภาคอื่นนอกเหนือจากพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก รวมไปถึงข้อเสนอสำหรับการจัดทำนโยบาย มาตรการส่งเสริม กฎหมายและกฎระเบียบ เพื่อผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมในครั้งนี้ โดยการสัมมนาแต่ละครั้งที่ผ่านมาได้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์และที่ปรึกษาสามารถนำไปใช้ประกอบการจัดทำผลการศึกษาเป็นอย่างดี

การจัดสัมมนาเผยแพร่ผลการศึกษาและรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้   จึงเป็นอีกก้าวหนึ่งของโครงการศึกษากรอบแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมีระยะที่ 4 ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกและพื้นที่ที่มีศักยภาพเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคตที่จะขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศโดยใช้อุตสาหกรรมปิโตรเคมีเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง

ที่มา: คาริสม่า มีเดีย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๑๗:๑๖ กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๑๗:๕๕ Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๑๗:๔๗ โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๑๗:๑๒ ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๑๗:๐๐ กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๑๖:๐๐ WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๑๖:๐๔ เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๑๖:๔๗ ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๑๖:๐๒ NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ