ปตท. ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว พร้อมกับประสานให้บริษัท ปตท.สผ.ฯ ดำเนินการติดตามสถานการณ์ความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด โดยคำนึงถึงความมั่นคงทางพลังงานของประเทศเป็นหลัก ทั้งนี้ ปตท. ได้เจรจากับผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยแหล่งอื่น ๆ ที่มีศักยภาพในการเพิ่มปริมาณการผลิตก๊าซฯ ทดแทน เพื่อลดผลกระทบต่อต้นทุนพลังงานของประเทศลงได้บางส่วน
ขณะเดียวกัน ปตท. ได้เตรียมความพร้อมเร่งรัดการก่อสร้าง LNG Terminal แห่งใหม่ให้แล้วเสร็จพร้อมใช้งานภายในไตรมาสที่ 2 ปี 2565 อีกทั้งจัดเตรียมแผนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) รวมถึงผลิตภัณฑ์ทดแทนกำลังการผลิตของโรงแยกก๊าซฯ ที่ลดลง หากจำเป็น เพื่อให้มีวัตถุดิบป้อนเพียงพอแก่อุตสาหกรรมปิโตรเคมีในประเทศที่มีห่วงโซ่อุปทานต่อเนื่องและสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างมากมาย
อย่างไรก็ดี ปตท. หวังว่าทุกฝ่ายจะให้ความร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศอย่างต่อเนื่อง และพยายามลดผลกระทบที่อาจเกิดต่อประชาชนให้น้อยที่สุด
ที่มา: ปตท.