นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวในจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนและจัดประชุมสัมมนามากขึ้น เนื่องจากมีโรงแรมที่พักไว้คอยบริการหลายแห่ง และยังสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวทางทะเลตามตามหมู่เกาะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเช่น เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า เกาะนางยวน หมู่เกาะอ่างทอง เกาะพะลวยและเกาะนกเภา ที่มีพื้นที่อยู่ในโซนการท่องเที่ยวเดียวกัน
"พะลวยเป็นเกาะที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ และมีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ3 ของหมู่เกาะอ่างทอง แต่ยังขาดท่าเทียบเรือโดยสารที่ได้มาตรฐาน ทำให้การขนส่งจากฝั่งเมืองสู่เกาะไม่สะดวกและมีต้นทุนสูง การลงทุนสร้างท่าเทียบเรือเฟอร์รี่ที่เกาะพะลวย จะช่วยรองรับการเติบโตของการท่องเที่ยวทางทะเลที่กำลังเกิดขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกในการคมนาคมทางน้ำ และยังเป็นการขยายฐานธุรกิจเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทฯ อีกทาง" นายอภิชาติ กล่าว
สำหรับโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือเกาะพะลวย ได้ผ่านการประชาคมรับฟังความเห็นจากชาวบ้านและหน่วยงานราชการในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้รับใบอนุญาตให้สร้างท่าเทียบเรือขนาดไม่เกิน 500 ตันกรอส เพื่อใช้ในการเทียบเรือบรรทุกโดยสารและยานพาหนะ (ประเภทเรือเฟอร์รี่) คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 6-12 เดือน
อย่างไรก็ดี การลงทุนสร้างท่าเทียบเรือเกาะพะลวยครั้งนี้ ในอนาคตยังสามารถรองรับการคมนาคมขนส่งและการท่องเที่ยวบนเกาะนกเภาได้อีกด้วย เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีเรือโดยสารรองรับ ต้องลำเลียงสินค้าและนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งด้วยเรือโดยสารขนาดเล็ก ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ได้รับความสะดวกมากนัก เชื่อว่าการสร้างท่าเทียบเรือเกาะพะลวยจะเกิดประโยชน์อย่างมาก และกลายเป็นสะพานเชื่อมเมืองสู่เกาะ (Island Gateway) อีกแห่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ที่มา: ท่าเรือราชาเฟอร์รี่