ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ 43.4 จาก 41.6 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำ อยู่ที่ 46.1 จาก 45.1 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 58.7 จาก 56.8
ปัจจัยบวก ได้แก่ ภาครัฐดำนินมาตรการต่างๆ เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อาทิ โครงการ"เราชนะ" "เรารักกัน" "คนละครึ่ง" "เราเที่ยวด้วยกัน", การเริ่มต้นฉีดวัคซีนโควิด-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคคลายความกังวล, คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น
ปัจจัยลบ ได้แก่ สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยังคงมีอยู่ กระทบต่อการดำเนินชีวิต การทำธุรกิจ และภาวะเศรษฐกิจของประเทศ, สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ปรับคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 64 เหลือ 2.5-3.5% จากเดิม 3.5-4.5%, ความกังวลเสถียรภาพทางการเมือง, ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับเพิ่มขึ้น, เงินบาทแข็งค่าทำให้มีความกังวลต่อความสามารถในการแข่งขันสินค้าไทย และผู้บริโภคยังกังวลเศรษฐกิจชะลอตัว
ที่มา: มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย