นายธัชพล ชวินธนโชติ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ให้ความเห็นว่าหากเกษตรกรยังใช้วิธีเผาใบอ้อยก่อนเก็บเกี่ยว ผลเสียโดยตรงนอกจากจะทำให้ได้น้ำหนักอ้อยลดลงแล้ว คุณภาพความหวานที่ลดลงยังส่งผลต่อรายได้ของเกษตรกรอีกด้วย การเผายังทำลายอินทรียวัตถุในดิน ทำให้ดินสูญเสียความชื้น เกิดวัชพืชได้ง่าย ซึ่งวัชพืชจะมาแย่งอาหาร ทำให้อ้อยตอแคระแกร็น และเมื่อปลูกอ้อยใหม่ในปีถัดมา เกษตรกรต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาอ้อยตอเพิ่มขึ้น ต้นทุนก็เพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่อเทียบระหว่างเกษตรกรที่ใช้วิธีเผา และเกษตรกรที่ใช้เครื่องสางใบอ้อย แน่นอนว่าแปลงที่ใช้เครื่องสางใบอ้อยย่อมได้ผลผลิตดีกว่า จึงอยากแนะนำและสนับสนุนให้เกษตรกรเลือกใช้เครื่องสางใบอ้อยก่อนตัดอ้อย และไถกลบใบอ้อยที่เหลือเพื่อช่วยถนอมหน้าดินไม่ให้ธาตุอาหารในดินถูกทำลาย และช่วยลดมลพิษทางอากาศอีกด้วย และด้วยเหตุผลต่าง ๆ เหล่านี้ ยันม่าร์ได้ให้ความสำคัญ จึงพัฒนาผลิตภัณฑ์รองรับการปลูกอ้อยทุกขั้นตอน ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมดิน การปลูก และการเก็บเกี่ยว ด้วยแทรกเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงที่หลากหลาย ประกอบกับการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกอ้อยสไตล์ยันม่าร์ ซึ่งเป็นการใช้อุปกรณ์เพื่อลดขั้นตอนการปลูก ช่วยประหยัดเวลา อาทิ จอบหมุนพรวนดินแนวตั้ง มินิคอมไบน์ เครื่องปลูกอ้อยแบบลึก รวมทั้งขั้นตอนการดูแลบำรุงต้นอ้อยด้วยริปเปอร์ฝังปุ๋ย และเครื่องสางใบอ้อย ซึ่งเป็นอุปกรณ์ล่าสุดจากยันม่าร์ที่จะช่วยเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกร
ประสิทธิภาพการทำงาน
เมื่อติดตั้งชุดสางใบอ้อยโรลเลอร์ 4 หัวกับแทรกเตอร์โซลิส ขนาด 26 แรงม้า ชุดสางใบอ้อยจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สางใบอ้อยได้รวดเร็ว ลำต้นสะอาด ไม่ทำลายลำอ้อย ความกว้างของเครื่อง 2.3 เมตรสามารถเข้าร่องอ้อยได้อย่างลงตัว สลักเกาะแขนยกมี 2 ระดับ สามารถปรับระดับยกสูงสุดได้ถึง 60 เซนติเมตร ในระหว่างย้ายแปลง การทำงานของโรเลอร์คู่บนที่มีขนาดสั้นจะช่วยสางใบอ้อยส่วนบนของต้นอ้อย ทำงานประสานกับโรเลอร์คู่ล่างที่มีขนาดยาวช่วยสางใบอ้อยช่วงโคนต้นทำให้สางใบอ้อยได้สะอาดทั้งลำ ด้วยความเร็วที่ 950 รอบต่อวินาทีทำให้ตีใบอ้อยได้ละเอียดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถใช้บำรุงรักษาแปลงอ้อยในช่วงที่อ้อยกำลังเจริญเติบโตในช่วงอายุ 5-6 เดือน เพื่อเปิดแปลงอ้อยให้โล่ง อากาศถ่ายเทได้ดี แสงแดดส่องถึงโคนต้น ช่วยให้อ้อยโตเร็วขึ้น และลดโอกาสที่สัตว์พิษจะมาทำรังในไร่อ้อย เช่น งู ผึ้ง ต่อ และแตนได้อีกด้วย
คุณภาพเอ็นสางใบอ้อย
เครื่องสางใบอ้อยยันม่าร์มีความแข็งแรง เส้นเอ็นออกแบบพิเศษทนทานใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 18 ไร่ โดยที่เอ็นไม่แตก เพียงแค่ปลายเอ็นเรียวลงเล็กน้อยเท่านั้น และเมื่อขยับเอ็นใหม่ก็ยังสามารถใช้ต่อได้อีกราว 10-18 ไร่ โดยไม่ต้องเปลี่ยนทั้งชุด ลดอัตราการสิ้นเปลืองการใช้เอ็นลงกว่าร้อยละ 50 ซึ่งปกติเครื่องสางใบอ้อยทั่วไป จะใช้เอ็นจำนวน 7 ชุดต่อ 1สัปดาห์ ในขณะที่เครื่องสางใบยันม่าร์ใช้เอ็นเพียง 3 ชุด ต่อ 1 สัปดาห์ การเปลี่ยนเอ็นก็สามารถทำได้ง่าย ใช้เวลาน้อย ซึ่งในรุ่นปกติทั่วไปจะเสียเวลาในการเปลี่ยนเอ็นมากกว่า 1 -1.30 ชั่วโมง แต่เครื่องสางใบอ้อยยันม่าร์ใช้เวลาเปลี่ยนเอ็นลดลงกว่า 2 เท่า เพียงแค่ 30 นาที ก็สามารถทำงานต่อเนื่องได้ทันที นอกจากนี้ช่องเอ็นยังมียางครอบเอ็น เพื่อช่วยลดการเสียดสีของเอ็นที่ติดกับโครงเหล็กได้เป็นอย่างดี อีกทั้งชุดการ์ดกล่องทึบถูกออกแบบช่วยป้องกันไม่ให้เศษใบอ้อยตีกลับเข้ามาติดที่ชุดส่งกำลังเพลาโรเตอร์ มู่เล่ย์สายพาน และสายพาน ซึ่งมีความร้อน เมื่อเสียดสีกับเศษใบอ้อยอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุใบอ้อยติดพันและอาจเกิดประกายไฟได้
การบำรุงรักษา
เครื่องสางใบอ้อยยันม่าร์ถูกออกแบบให้ง่ายต่อการบำรุงรักษาโดยชุดการ์ด มีการออกแบบให้มีช่องสอดหัวอัดจารบีให้ได้พอดีกับตำแหน่งหัวอัดจารบี เพื่อสามารถอัดจารบีได้อย่างสะดวกเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งาน
เครื่องสางใบอ้อยยันม่าร์ราคา 53,500 บาท พร้อมจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ร้านค้าตัวแทนยันม่าร์ทั่วประเทศ สอบถามเพิ่มเติมโทร.1638 และรับชมตัวอย่างสินค้ายันม่าร์ได้ที่ WWW.Yanmar.com หรือติดตามทางเฟสบุ้ค Yanmarthailandfanclub
ที่มา: เวกเตอร กรุ๊ป