ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในเอเชียมาถึงจุดสิ้นสุดของช่วงการเริ่มต้น

พุธ ๑๗ มีนาคม ๒๐๒๑ ๑๖:๔๓
การเปลี่ยนแปลงสู่พฤติกรรมการซื้อของในช่องทางออมนิ ชาแนล (Omni channel) อย่างถาวร เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับประเทศไทย

นีลเส็นไอคิว บริษัทด้านการวัดและการวิเคราะห์ข้อมูลระดับโลก เผยยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) ทางออนไลน์ไม่ได้มาจากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของผู้ที่ซื้อออนไลน์อยู่แล้ว แต่มาจากการที่มีครัวเรือนที่เริ่มหันมาซื้อสินค้าทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น รวมถึงความถี่ในการซื้อและจับจ่ายที่เพิ่มขึ้น นี่จึงเป็นสัญญานที่ชี้ให้เห็นถึงจุดสิ้นสุดของช่วงการเริ่มต้นในธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชีย

จากรายงานล่าสุด นีลเส็นไอคิวต้องการส่งสัญญาณให้ผู้ค้าปลีกเตรียมความพร้อมเพื่อตั้งรับความท้าท้าย 5 ประการที่ผู้ค้าปลีกจะต้องเผชิญในช่วงการเปลี่ยนผ่านของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในระยะถัดไป ได้แก่ การกระจายตัวที่มากขึ้น (fragmentation) ในการค้าปลีก การกำหนดบทบาทใหม่ของร้านค้าที่มีหน้าร้าน ความเป็นจริงที่แตกต่างกันออกไป (divergent realities) การแข่งขันที่สูงขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค และการจัดการคลังสินค้าพร้อมจัดส่งถึงมือผู้บริโภค (last mile fulfillment) ดูภาพประกอบที่ 1

"เราได้เข้าสู่จุดสิ้นสุดของช่วงเริ่มต้นในธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชีย และผู้ที่ยังไม่ปรับตัวในเวลานี้ จะพลาดช่วงเวลาสำคัญในการเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ" Vaughan Ryan กรรมการผู้จัดการ แผนก Consumer Intelligence ภูมิภาคเอเชีย นีลเส็นไอคิว กล่าว "ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และความสร้างสรรค์ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกมีก้าวหน้ามากขึ้น นำไปสู่การสร้างสภาพแวดล้อมที่มีความเชื่อมั่นมากขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องการจัดการและการจัดส่งสินค้า แต่เป็นการก้าวไปสู่การดูแลในระดับเฉพาะบุคคล (personalized) การคัดสรรสินค้าใหม่ๆ รวมถึงการทำให้ประสบการณ์การซื้อในทุกช่องทางให้เชื่อมต่อการอย่างราบรื่น"

และขณะที่ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซถูกมองว่าเข้ามาเปลี่ยนแปลงการค้าปลีก การระบาดของโรคโควิด-19 ก็ได้เข้ามาเป็นตัวเร่งให้เกิดความพร้อมในการเปลี่ยนผ่านสู่ระยะถัดไป

นีลเส็นไอคิวรายงานว่า ประเทศที่ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซมีการพัฒนามากกว่าประเทศอื่นๆ อย่างเกาหลีใต้ ประชากรมากกว่าสามในสี่ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านทางออนไลน์ โดยจำนวนผู้ซื้อสินค้าในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาเติบโตที่ 5.1%

หากเทียบกับตลาดที่กำลังพัฒนานั้น โดยธรรมชาติแล้วอัตราการเติบโตสินค้าอุปโภคบริโภคทางออนไลน์จะอยู่ในระดับที่สูงมากหากเทียบการการเติบโตในเกาหลีใต้ ซึ่งการเติบโตดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความมั่นใจในการซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น สำหรับประเทศไทย จำนวนครัวเรือนที่ซื้อสินค้าทางออนไลน์เพิ่มขึ้นถึง 58%

อัตราการเติบโตของสินค้าอุปโภคบริโภคทางออนไลน์ในแต่ละประเทศจะมีอัตราเริ่งที่ต่างกันออกไปตามระดับความพร้อมในเรื่องดิจิทัล อย่างไรก็ดี นีลเส็นไอคิวเชื่อว่า ต่อจากนี้การเติบโตของสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่นั้นจะมาจากอี-คอมเมิร์ซ

ในประเทศไทย สัดส่วนยอดขายออนไลน์สินค้าอุปโภคบริโภคยังคงมาจากกลุ่มสินค้าไม่ใช่อาหารเป็นหลัก (non-food category) แต่ในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมา นีลเส็นไอคิวเห็นถึงการเติบโตในสินค้ากลุ่มอาหารทางช่องทางออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยที่สินค้ากลุ่มอาหารเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 74% เทียบกับสินค้าที่ไม่ใช่อาหารที่เติบโตที่ 60% ความท้าทายตอนนี้จึงอยู่ที่ว่าผู้ค้าปลีกและแบรนด์จะมีวิธีการรักษาเทรนด์การเติบโตให้คงอยู่อย่างยั่งยืนได้อย่างไร ดูภาพประกอบที่ 2

ภรวดี พรมิ่งมาศ ผู้อำนวยการ แผนก Consumer Intelligence นีลเส็นไอคิว ประเทศไทย กล่าวว่า "เราได้เห็นถึงปัจจัยที่เป็นตัวเร่งและดึงดูดให้ผู้บริโภคหันมาซื้อของทางออนไลน์ และเรารู้ว่ายังมีอุปสรรคอีกมากที่เราต้องก้าวข้ามไปให้ได้ แต่การจะรักษาเทรนด์การเติบโตนี้ให้อยู่ได้อย่างยั่งยืน ผู้ค้าปลีกและแบรนด์จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการรับมือความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค ด้วยการสร้างข้อเสนอของสินค้าที่แตกต่างออกไปในการการช็อปปิ้งทุกช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์ (Omni-shopping journey) นอกจากนี้ ผู้ค้าปลีกและแบรนด์จะต้องเตรียมตัวที่จะตอบโจทย์ความพึงพอใจโดยรวมของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นด้านเวลา ความสะดวก ความหลายหลายของสินค้า และความปลอดภัย พวกเขาจะต้องสร้างประสบการณ์โดยรวมและเพื่อสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าของตัวเองอย่างแท้จริง"

เกี่ยวกับนีลเส็นไอคิว

นีลเส็นไอคิว (NielsenIQ) เป็นผู้นำในการให้มุมมองเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลกที่เป็นกลางและสมบูรณ์ที่สุด ด้วยนวัตกรรมด้านฐานข้อมูลผู้บริโภครวมกับความสามารถในการวิเคราะห์ที่หลากหลาย เป็นแรงขับเคลื่อน ทำให้นีลเส็นไอคิวมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้บริษัทกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค และผู้ค้าปลีกชั้นนำระดับโลกสามารถตัดสินใจได้อย่างเฉียบคมและมั่นใจ

นีลเส็นไอคิวช่วยให้ลูกค้าได้เห็นถึงมุมมองในอนาคตเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจในทุกแพลตฟอร์มและช่องทางการค้าปลีกโดยการใช้ชุดข้อมูลที่ครอบคลุมและมีมาตรฐานการวัดที่เท่าเทียมกัน ปรัชญาที่เปิดกว้างของเราในการผสมผสานและเชื่อมโยงข้อมูล ทำให้เราได้มาซึ่งชุดข้อมูลผู้บริโภคที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก นีลเส็นไอคิวนำเสนอความจริงอย่างสมบูรณ์

นีลเส็นไอคิว ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มแอดเวนต์ อินเตอร์เนชั่นแนล (Advent International) มีการดำเนินงานในเกือบ 100 ประเทศที่ครอบคลุมกว่าร้อยละ 90 ของประชากรโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเข้าชมที่ www.nielseniq.com

ที่มา: นีลเส็นไอคิว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO