บลจ.ไทยพาณิชย์ โชว์บริหาร เตรียมจ่ายปันผล 3 กองทุน หุ้นอินเดีย-โกลบอลเฮลธ์แคร์-สมาร์ทแพลน 3

ศุกร์ ๑๙ มีนาคม ๒๐๒๑ ๑๑:๔๒
นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมจ่ายเงินปันผลจำนวน 3 กองทุนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนพร้อมกันในวันที่ 24 มีนาคม 2564 นี้ ประกอบด้วย

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นอินเดีย (SCBINDIA) สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มี.ค. 2563 - 28 ก.พ. 2564 กำหนดจ่ายปันผลในอัตรา 0.1509 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 9 รวมจ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 1.0592 บาทต่อหน่วย (นับจากจัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2558) มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ iShares India 50 ETF ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนซึ่งซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ประเทศสหรัฐฯ กองทุนหลักบริหารโดย BlackRock และมีนโยบายลงทุนในหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อินเดีย (CNXNIFTY) เพื่อให้ผลการดำเนินงานของกองทุนก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี CNXNIFTY โดยกองทุน SCBINDIA จัดเป็นกองทุน 4 ดาว ประเภท Thailand Fund India Equity ของมอร์นิ่งสตาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 28 ก.พ. 2564)

สำหรับอีก 2 กองทุน งวดผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ก.ย. 2563 - 28 ก.พ. 2564 ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลบอลเฮลธ์แคร์ (SCBGHC) กำหนดจ่ายปันผลในอัตรา 0.2006 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 6 รวมจ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 0.9438 บาทต่อหน่วย (นับจากจัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2558) กองทุนมีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ Janus Henderson Global Life Sciences Fund (กองทุนหลัก) เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่มีความเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ชีวภาพ (Life Sciences) ปัจจุบันกองทุนหลักมีจำนวนหลักทรัพย์ในพอร์ตประมาณ 70 - 100 ตัว กระจายไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมย่อยที่เกี่ยวข้องในหลากหลายมูลค่าตลาด เช่น ธุรกิจเคมีภัณฑ์ ยาและเภสัชกรรม บริการด้านสาธารณสุข และเครื่องมือแพทย์ เป็นต้น ทั้งนี้ กองทุน SCBGHC จัดเป็นกองทุน 4 ดาว ประเภท Thailand Fund Global Health Care ของมอร์นิ่งสตาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 28 ก.พ. 2564)

และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ สมาร์ทแพลน 3 (SCBSMART3) กำหนดจ่ายปันผลในอัตรา 0.1574 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 7 รวมจ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 1.7238 บาทต่อหน่วย (นับจากจัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ วันที่ 26 ก.ย. 2555) กองทุนมีการจัดสรรสินทรัพย์โดยควบคุมมูลค่าความเสี่ยง (Value-at-Risk หรือ VaR) ให้อยู่ในกรอบที่กำหนด ประมาณ -10% ต่อปี มีนโยบายลงทุนในตราสารที่หลากหลาย อาทิ ตราสารหนี้ หุ้น เงินฝาก กองทุนอสังหาริมทรัพย์หรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ โดยกองทุนจะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไม่เกิน 34% รวมทั้งยังมีการลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 35% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางค่อนข้างสูง โดยกองทุน SCBSMART3 จัดเป็นกองทุน 5 ดาว ประเภท Thailand Fund Conservative Allocation ของมอร์นิ่งสตาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 28 ก.พ. 2564)

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับภาพรวมตลาดหุ้นอินเดียตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2563 จนถึงปัจจุบันปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 โดยดัชนีชี้วัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็นการจราจร หรือตัวเลขการจำหน่ายรถยนต์ที่บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจในอินเดียได้ฟื้นตัวกลับมาอีกครั้งหนึ่ง อีกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในอินเดียได้ปรับตัวลดลงอย่างมาก จากเดิมที่เพิ่มขึ้นวันละประมาณ 9 หมื่นราย เหลือเพียงวันละประมาณ 2 หมื่นราย โดยการปรับลดลงดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่อินเดียได้เริ่มมีการแจกจ่ายวัคซีนตั้งแต่ช่วงเดือน ม.ค. 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งวัคซีนหลักที่ถูกแจกจ่ายในปัจจุบันเป็นของ Oxford และ AstraZeneca ในขณะที่วัคซีน Covanix ของอินเดียนั้นยังคงอยู่ในขั้นตอนที่ 3 ของการพัฒนา ทั้งนี้ รัฐบาลอินเดียตั้งเป้าที่จะสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนจำนวน 3 ร้อยล้านคนจาก 1.3 พันล้านคน หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 23 ของจำนวนประชากรภายในเดือน ก.ค. 2564 สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นอินเดียในระยะถัดไปคาดว่า จะยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวดีสนับสนุนการบริโภคภาคเอกชน อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานที่ยังคงอยู่ในระดับสูงจะเป็นปัจจัยที่กดดันการปรับตัวขึ้นของตลาดได้ นักลงทุนจึงควรจับตาแนวโน้มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่จะเข้ามาช่วยคลี่คลายปัญหาดังกล่าวในระยะถัดไป

สำหรับภาพรวมการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเฮลธ์แคร์ทั่วโลกในปี 2563 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่การลงทุนในตลาดหุ้นโลกรวมถึงอุตสาหกรรมเฮลธ์แคร์เผชิญความผันผวนอย่างหนักภายหลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไตรมาสแรก อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางจากหลายประเทศต่างก็ผนึกกำลังกับรัฐบาลทั่วโลกเร่งออกนโยบายเพื่อต่อสู้กับวิกฤติในครั้งนี้ ผ่านมาตรการต่าง ๆ ทำให้นักลงทุนเริ่มคลายความกังวล ส่งผลให้ราคาหุ้นในอุตสาหกรรมเฮลธ์แคร์ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งยังได้แรงสนับสนุนจากข่าวดีเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนที่ออกมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2563 อีกด้วย ถึงแม้ว่า ประเด็นการคาดการณ์เงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ท่ามกลางการอัดฉีดสภาพคล่อง อาจส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเผชิญความผันผวนได้ในระยะสั้น แต่อย่างไรก็ดี ในระยะยาวนั้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ยังคงได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากร นวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ๆ และมาตรฐานการครองชีพที่สูงขึ้นและความเจริญที่ขยายตัวทั่วโลก ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนทำการลงทุน สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ ได้ที่ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6 หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย สนใจเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click ได้ที่ https://scbam.link/scbam_fund_click

ที่มา: บลจ.ไทยพาณิชย์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO