สำหรับในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี ภูมิอากาศของประเทศไทย จะมีอุณหภูมิและมีอากาศร้อนเพิ่มสูงขึ้น
ดังนั้นในทุก ๆ ปี เราจะต้องเผชิญกับโรคผิวหนังที่มากับอากาศร้อน จึงควรหลีกเลี่ยงการอยู่บริเวณที่มีแสงแดดเป็นเวลานานควรกางร่มและใส่แว่นกันแดด ใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด ถ้าอยู่ในที่ร่มไม่ควรใส่เสื้อผ้าหนาและรัดเกินไป เมื่ออุณหภูมิจะเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ต้องเตรียมรับมือกับโรคใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม คือโรคผิวหนัง จากข้อมูลของสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ พบว่า ในช่วงฤดูร้อนโรคผิวหนังที่พบบ่อย ได้แก่ 1.โรคภูมิแพ้ผิวหนัง 2.โรคเกลื้อน 3.โรคกลิ่นตัว 4.โรคผิวไหม้แดด 5.โรคผด 6.โรคกลาก โดกลุ่มเสี่ยงที่เป็นโรคผิวหนังในช่วงฤดูร้อน ประกอบด้วย เด็กเล็ก ผู้ที่ต้องทำงานตากแดดเป็นเวลานาน ผู้ที่ใส่เสื้อผ้าซ้ำ ๆหรือเสื้อผ้าอับชื้น นักกีฬากลางแจ้ง ผู้ที่นิยมกิจกรรมนอกสถานที่ เช่น เที่ยวทะเล อาบแดด ตีกอล์ฟ และผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนัง ดังนั้นควรดูแลรักษาตนเองจากโรคผิวหนังในหน้าร้อน ด้วยการหลีกเลี่ยงการอยู่บริเวณที่มีแสงแดดเป็นเวลานาน หากจำเป็นควรใส่เสื้อแขนยาว กางร่มและใส่แว่นกันแดด ใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด ถ้าอยู่ในที่ร่มไม่ควรใส่เสื้อผ้าหนาและรัดเกินไป เพราะจะทำให้เกิดการอับชื้นเหงื่อ เกิดผดผื่นคันได้ ในหน้าร้อนควรสระผมบ่อย ๆ เนื่องจากศีรษะที่อับชื้นเป็นสาเหตุให้เกิดเชื้อราที่ศีรษะได้ หากต้องใส่รองเท้าที่ปกปิดมิดชิด ควรถอดออกบ้างเมื่อนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน หากเท้ามีเหงื่อออกมากให้หายาระงับไม่ให้เหงื่อออกมากเกินไป หรือโรยแป้งไว้ระหว่างนิ้วเท้าเพื่อขับเหงื่อ ควรเปลี่ยนรองเท้าบ่อยๆ และนำไปผึ่งตากแดดเพื่อดับกลิ่นและฆ่าเชื้อโรค สำหรับผู้ที่แพ้โลหะไม่ควรใส่เครื่องประดับที่ทำจากนิกเกิล เพราะเมื่อเหงื่อออกจะทำให้นิกเกิลละลายออกมา ทำปฏิกิริยากับผิวหนัง ทำให้ผิวหนังอักเสบหรือเกิดผื่นแพ้ หากมีเหงื่อออกมากควรอาบน้ำหรือใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด ฉะนั้นหากปฏิบัติตามคำแนะนำจะสามารถห่างไกลโรคผิวหนังที่มากับฤดูร้อนให้ได้
ที่มา: ไอเวิร์คพีอาร์