กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--ธนาคารไทยพาณิชย์
ธนาคารไทยพาณิชย์แจ้งผลประกอบการเบื้องต้นสำหรับไตรมาส 1/2549 ก่อนการสอบทานโดยผู้สอบบัญชีอิสระ ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 4,223 ล้านบาท โดยกำไรก่อนภาษีเงินได้ มีจำนวน 5,462 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 456 ล้านบาทหรือ 9.1% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 524 ล้านบาทหรือ 10.6% จากไตรมาส 1/2548 แม้ว่าในไตรมาสนี้ ธนาคารมีการตั้งค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานเป็นพิเศษก็ตาม โดยรายได้จากการดำเนินงาน ทั้งรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิ และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในไตรมาสนี้ธนาคารมีการจ่ายภาษีเงินได้จำนวน 1,239 ล้านบาท
คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า
“ผลประกอบการของธนาคารในไตรมาส 1 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 15.7% จากไตรมาสก่อน และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Net Interest Margin) เพิ่มขึ้นมากเป็น 3.61% เทียบกับ 3.35% ขณะที่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยดีขึ้นทุกด้าน โดยเฉพาะส่วนแบ่งรายได้จากบริษัทย่อยและร่วม ตามผลประกอบการที่ดีขึ้นของบริษัทในเครือ สำหรับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในไตรมาสนี้ เนื่องจากการตั้งค่าใช้จ่ายผลตอบแทนพิเศษแก่พนักงานจากผลประกอบการปี 2548 ที่ดีมาก รวมถึงเพื่อฉลองโอกาสครบรอบ 100 ปีของธนาคารด้วย ในไตรมาสนี้ธนาคารมีการจ่ายภาษีจำนวน 1,239 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาสก่อนมีจำนวนเพียง 606 ล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน”
ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ได้กล่าวเสริมว่า
“ในปีนี้ ธนาคารได้ตั้งเป้าหมายเน้นการเติบโตทั้งด้านสินทรัพย์และรายได้ ตลอดจนการทำงานร่วมกันในนามกลุ่มไทยพาณิชย์ ซึ่งผลประกอบการในไตรมาสนี้ เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ทุกประการ ขณะนี้ ธนาคารมีขนาดสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 919,009 ล้านบาท ซึ่งจัดเป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สามของประเทศจากเดิมที่อยู่ในอันดับที่สี่ และราคาหุ้นของธนาคารได้สะท้อนถึงผลประกอบการที่โดดเด่น ทำให้ธนาคารมี Market Capitalization ณ. 31 มีนาคม 2549 สูงถึง 217 แสนล้านบาท ซึ่งสูงที่สุดในระบบธนาคารพาณิชย์”