เมื่อทีมบุคลากรทางการแพทย์ชุดนี้ปฏิบัติภารกิจครบ 1 เดือน จะมีทีมสับเปลี่ยนอีกชุด และทีมบุคลากรที่เดินทางกลับจะต้องกับตัว 14 วัน ทั้งนี้อยู่ระหว่างดำเนินการและจัดเตรียมโรงแรมที่ใช้กักตัว (Hospitel) เพื่อรองรับบุคลากรทางการแพทย์ชุดนี้โดยเฉพาะ พร้อม เสนอให้โรงพยาบาลเอกชนในต่างจังหวัดที่ยังพอมีกำลังของบุคลากรทางการแพทย์เหลืออยู่ ร่วมมือกับเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่ระบาดรับมือสถานการณ์ หากควบคุมในเชิงรุกพื้นที่ระบาดได้ ก็จะทำให้ภาพรวมของสถานการณ์ทั้งประเทศดีขึ้นได้เช่นเดียวกัน
ขณะที่นายธานี มณีนุตร์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด ในฐานะผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด(มหาชน) หรือ PRINC เปิดเผยความคืบหน้าการขยายเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ระบุว่าสามารถขยายจากปัจจุบัน 60 เตียง เพิ่มเป็นประมาณ 170-180 เตียง ในโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิแล้ว (ไม่รวมเตียงสำหรับผู้ป่วยโรคอื่นๆ) แต่สิ่งที่ไม่สามารถเพิ่มได้เลยทันที คือจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ จึงระดมบุคลากรทางการแพทย์ทั้งจากเครือรพ.พริ้นซ์ฯที่มีกว่า 12 แห่ง 10 จังหวัดทั่วประเทศ และยังมีโรงพยาบาลพันธมิตรที่สำคัญ ได้แก่เครือโรงพยาบาลนายแพทย์หาญ จังหวัดยโสธร ฯลฯ ร่วมส่งบุคลากรการแพทย์เสริมภารกิจดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ในครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้'เครือรพ.พริ้นซ์ฯ-กลุ่มโรงพยาบาลนายแพทย์หาญ' ผนึกกำลังรวบรวมสหสาขาวิชาชีพแพทย์สาขาต่างๆร่วมดูแลผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อแบ่งเบาภาครัฐในการรับมือสถานการณ์ระบาด ในกรณีที่มีผู้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผลตรวจเป็น Positive ทางเครือรพ.พริ้นซ์ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนทางสาธารณสุข นำโทรเวชกรรม หรือ Telemedicine ในการติดตามและให้คำแนะนำผู้ป่วย พร้อมจัดหาเตียงในการรองรับ ทั้งภายในเครือรพ.พริ้นซ์ Hospitel เครือข่ายรพ.เอกชน หรือประสานส่งต่อโรงพยาบาลสนามในการรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ตามกลไกของภาครัฐ พร้อมการแบ่งเบาภาระด้านสาธารณสุข และยืนหยัดอยู่เคียงข้างคนไทยในสถานการณ์การระบาดที่เกิดขึ้น
ที่มา: พริ้นซิเพิล แคปิตอล