สำหรับมาตรการป้องกันโรคระบาดของบริษัทฯ ประกอบด้วย 3 มาตรการหลัก คือ 1) การห้ามเข้า-ออกโรงไฟฟ้า การจัดให้มีที่พักและอาหารให้พนักงานและผู้รับเหมาภายในพื้นที่โรงไฟฟ้า 2) การจัดทีมและเตรียมทีมปฏิบัติงานสำรองไว้ทั้งการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าและส่วนของงานบำรุงรักษาขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่ของ กฟผ.และรัฐวิสาหกิจลาว (EDL) ร่วมด้วย เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดต่อ ทั้งในประเทศไทย และในสปป.ลาว 3) สนับสนุนสวัสดิการทั้งในการรักษาพยาบาล และการฉีดวัคซีนให้กับพนักงาน
"บริษัทฯ ขอรับรองว่า โรงไฟฟ้าทุกแห่งภายใต้การบริหารของ CKPower สามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเพื่อส่งไฟให้ทั้งในประเทศไทย และ สปป.ลาว ได้ต่อเนื่องอย่างแน่นอน และบริษัทฯ จะดูแลด้านสาธารณสุขภายในพื้นที่โรงไฟฟ้า รวมถึงพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ตามประกาศและคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อทุกคนจะได้ทำหน้าที่ผลิตไฟฟ้าให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน" นายธนวัฒน์ กล่าว
ข้อมูลเกี่ยวกับ CKPower: บริษัทฯ ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานประเภทต่าง ๆ 3 ประเภท จำนวน 13 แห่ง รวมขนาดกำลังการผลิตติดตั้งที่ 2,167 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังน้ำ 2 แห่ง ภายใต้ บริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 46% (ถือผ่าน บริษัท เซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี จำกัด) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 615 เมกะวัตต์ และบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 37.5% ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 1,285 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม จำนวน 2 แห่ง ภายใต้ บริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ 65% ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 238 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ 9 แห่ง ภายใต้ บริษัท บางเขนชัย จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 100% จำนวน 7 แห่ง ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 15 เมกะวัตต์ ภายใต้ บริษัท เชียงรายโซล่าร์ จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 30% จำนวน 1 แห่ง ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 8 เมกะวัตต์ และภายใต้บริษัท นครราชสีมา โซล่าร์ จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 30% จำนวน 1 แห่ง ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 6 เมกะวัตต์
ที่มา: ซีเค พาวเวอร์