ม.มหิดล ระดมสมองผลักดันนโยบายสูงวัยอย่างมีพลัง

ศุกร์ ๓๐ เมษายน ๒๐๒๑ ๑๑:๒๑
38 ปีที่ สถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียนมหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับการก่อตั้งเพื่อส่งเสริมและพัฒนางานสาธารณสุขมูลฐานของประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย และองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) ซึ่งญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ครองแชมป์คนที่มีอายุยืนมากที่สุดในโลกนั้น ได้มีการศึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงปัจจัยสู่การมีชีวิตที่ยืนยาวและยั่งยืน เพื่อนำมาปรับใช้กับสังคมไทยตลอดเวลาที่ผ่านมา

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์วิชช์เกษมทรัพย์ รองผู้อำนวยการฝ่ายขับเคลื่อนนโยบาย สถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะหัวหน้า "โครงการวิจัยสานพลัง ติดตามและสนับสนุนกระบวนการ นโยบายสุขภาพเพื่อรองรับสังคมสูงวัยที่มีคุณภาพ" ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 15 เมษายน - 30 มิถุนายน 2564 กล่าวว่า จากที่สถาบันฯได้เป็นผู้วางรากฐานด้านการส่งเสริมและพัฒนางานสาธารณสุขมูลฐานของประเทศซึ่งที่ผ่านมาระบบสาธารณสุขมูลฐานของไทยได้แสดงศักยภาพในการพัฒนาการสาธารณสุขไทยหลายเรื่อง ผ่านการทำงานบริการสาธารณสุขในพื้นที่พร้อมด้วยอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทั่วประเทศกว่าล้านคน ที่เห็นชัดใกล้ๆ นี้ก็คือ การควบคุมป้องกันโรคระบาด COVID-19 ในปี พ.ศ.2563 ได้สำเร็จเป็นอย่างดี

ปัจจุบันเมื่อสังคมไทยก้าวสู่สังคมผู้อายุมากกว่า 60 ปี เกือบร้อยละ 20 หรือมากกว่า 12 ล้านคน บทบาทของ อสม. และระบบสาธารณสุขมูลฐานก็ปรับเปลี่ยนไป มีบทบาทเพิ่มเติมเพื่อไปควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรังแก่ผู้สูงวัย รวมถึงคอยสอดส่องดูแล และส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุโดยใช้ชุมชนเป็นพื้นฐาน (Community-based Care) เพื่อการดูแลในระยะยาวที่ยั่งยืนต่อไปอีกด้วย

จากกรณีศึกษาประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีประชากรอายุยืนมากที่สุดในโลก พบว่าสังคมญี่ปุ่นต้องพัฒนาระบบการดูแลระยะยาว (Long-Term Care) และการประกันการดูแลระยะยาว (Long-Term Care Insurance) เพื่อรองรับผู้สูงวัยที่มีเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นระบบประกันที่ทำให้คนญี่ปุ่นได้รับการดูแลในวัยเกษียณจากภาษีรัฐบาล ที่ถึงแม้ไม่สามารถนำมาใช้กับประเทศไทยได้ 100% เนื่องจากไทยและญี่ปุ่นมีโครงสร้างทางประชากร เศรษฐกิจ และสังคมที่แตกต่างกัน แต่เมื่อเมืองไทยกำลังดำเนินรอยตามญี่ปุ่นในการเข้าสู่สังคมสูงวัย เราก็สามารถนำระบบเหล่านี้มาปรับให้กับบริบทประเทศไทยที่ไม่ได้รายได้เฉลี่ยของประชากรสูงเท่าญี่ปุ่น โดยเรามุ่งใช้ชุมชนเป็นพื้นฐาน (Community-based Care) เพื่อให้สมาชิกชุมชนได้ดูแลซึ่งกัน เพื่อก่อให้เกิดสังคมที่ไม่ทอดทิ้งกันผ่านโครงข่ายการสาธารณสุขมูลฐานที่เข้มแข็งในชุมชนซึ่งเป็นจุดเด่นของประเทศไทยที่ญี่ปุ่นไม่มี

อย่างไรก็ตาม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์วิชช์ เกษมทรัพย์ อธิบายว่า ผู้สูงวัยซึ่งมีอายุระหว่าง 60 - 80 ปีนั้น จำนวนมากไม่ได้ต้องการให้มีคนมาดูแล เพราะยังมีกำลังในการทำกิจวัตรประจำวันได้เป็นอย่างดี และสามารถเป็น "ผู้สูงวัยที่มีพลัง" (Active Aging) ได้ โดยพบว่าผู้สูงวัย เป็นวัยที่น่าจะมี "สุขภาวะทางปัญญา" ดีกว่าประชากรในวัยอื่น เนื่องจากมีประสบการณ์ชีวิตที่สูงกว่า และเข้าใจความเป็นจริงในโลกมากกว่า เปรียบเหมือน "ขุมทรัพย์" (asset) ที่จะยังประโยชน์ให้กับสังคมที่ท่านเหล่านั้นอาศัยอยู่ตั้งแต่ในระดับครอบครัวชุมชน ไปจนถึงระดับประเทศได้ ไม่ใช่ต้องเป็นแต่ภาระของสังคม โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลเช่นปัจจุบัน และคาดว่าในอีก 20 ปีข้างหน้าจะมีประชากรกลุ่มใหญ่ที่เกิดระหว่างปีพ.ศ.2506 - 2526 ซึ่งเป็นช่วงที่มีจำนวนคนเกิดในประเทศไทยมากกว่าล้านคนต่อปีติดต่อกันกว่า 20 ปี (ปัจจุบันเกิดประมาณ 6 แสนคนต่อปี) กำลังจะเปลี่ยนผ่านช่วงชีวิตไปสู่วัยสูงอายุ ซึ่งต่างมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้ไปจนถึงดีมาก ถ้ารัฐบาลมีการผลักดันให้มีนโยบายเพื่อสร้างระบบมาช่วยให้ผู้สูงวัยกลุ่มนี้ได้แสดงศักยภาพที่มีอยู่อย่างเต็มที่ เชื่อว่าท่านเหล่านี้จะนำพาสังคมไทยไปสู่สังคมสุขภาวะ และมีความเจริญก้าวหน้าไปสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วได้อย่างแน่นอน

ดังนั้นการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้มีงานทำที่เหมาะสม และทำกิจกรรมผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น การมีนโยบายสนับสนุนให้มีการใช้อินเทอร์เน็ตฟรีได้ทุกที่ทุกเวลา นอกจากจะช่วยทำให้ผู้สูงอายุที่มีสมรรถภาพทางกายที่อาจจะไม่เหมาะสมกับการทำงานแบกหามอย่างหนักได้แสดงศักยภาพทางปัญญาได้อย่างเต็มที่แล้ว ยังจะสามารถช่วยป้องกันความเสื่อมต่างๆ ทางร่างกายและจิตใจ เช่น สมองเสื่อม หรือภาวะเหงา ซึมเศร้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

อย่างไรก็ดีพบว่า เมื่อถึงภาวะหนึ่งผู้สูงวัยจำนวนหนึ่งก็จะมีสภาพร่างกายที่ทรุดโทรมลงมาจนอาจจะเป็นผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งเราคงยังจำเป็นต้องพัฒนาระบบการดูแลระยะยาวและสร้างระบบการประกันการดูแลระยะยาวให้แก่ผู้สูงวัยไทยให้ได้อยู่ในช่วงสุดท้ายของชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี หรือจะดีที่สุดก็คือให้มีช่วงที่ต้องพึ่งพิงผู้อื่นช้าและน้อยที่สุด จึงเป็นโจทย์ที่ "โครงการวิจัยสานพลังติดตาม และสนับสนุนกระบวนการนโยบายสุขภาพเพื่อรองรับสังคมสูงวัยที่มีคุณภาพ" สถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล นำมาขับเคลื่อนให้เครือข่ายที่เกี่ยวข้องมาร่วมระดมสมอง โดยหวังให้ผู้สูงอายุไทยได้อยู่อย่างมีสุขภาพกายและจิตที่ดี มีศักดิ์ศรี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไปอย่างยั่งยืน

โดยโครงการฯ ได้กำหนดให้มีการระดมสมองใน 4 ประเด็น คือ "สูงวัยอย่างมีพลัง ยังประโยชน์ในยุคดิจิทัล" "ขยับอย่างไรให้สุขภาพดีในผู้สูงวัย" "Long-Term Care Insurance นโยบายเพื่อสังคมสูงวัย" และ"จากอย่างสง่า" ซึ่งจะมีการขยายผลเพื่อผลักดันสู่นโยบายในระดับประเทศต่อไป

"คนไทยจะสามารถบรรลุเป้าหมาย Community-based Care ได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการเตรียมพร้อมกาย-ใจในระดับบุคคล รวมทั้งการพัฒนานโยบายในระดับชาติ และท้องถิ่นที่จะสร้างวินัยและระบบในการออมให้กับวัยรุ่นหนุ่มสาว และในระยะสั้นควรมีการเตรียมระบบที่จะช่วยพัฒนาให้ผู้มีอายุย่างเข้าเลข 4 เลข 5 ทุกคนได้พร้อมที่จะทำงานร่วมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ จะทำให้เมื่อดำเนินชีวิตไปเป็นผู้สูงวัยในอีก 10 - 20 ปีข้างหน้าแล้วจะเป็น "ผู้สูงวัยที่มีพลัง พร้อมที่จะยังประโยชน์ให้กับสังคมไทยต่อไปได้อย่างยั่งยืน" ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์วิชช์ เกษมทรัพย์ กล่าวทิ้งท้าย

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่www.mahidol.ac.th

ที่มา: มหาวิทยาลัยมหิดล

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ