รมช.แรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) ได้มีความร่วมมือกับองค์กรชั้นนำของประเทศจีนหลายองค์กร ยกตัวอย่างเช่น บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำด้านบริการโซลูชันไอซีทีระดับโลก มีความมุ่งมั่นที่จะให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานด้านไอซีที โดยการพัฒนาความรู้ ทักษะ ความสามารถให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน โดยเฉพาะบุคลากรด้านไอซีทีที่มีทักษะสูง เช่น ระบบ Cloud Computing, Big Data, Internet Opting, AI, 5G เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับบริษัท ซิโนเปค อินเตอร์เนชั่นแนล ปิโตรเลียม เซอร์วิส คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทด้านวิศวกรรมปิโตรเลียมชั้นนำของโลก โดยได้บูรณาการความร่วมมือเพื่อพัฒนาฝีมือแรงงานด้านเทคโนโลยีการเชื่อมอัตโนมัติ เป็นการยกระดับทักษะฝีมือให้แก่แรงงานไทย รองรับงานด้านอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ซึ่ง กพร. มีความพร้อมที่จะพัฒนาแรงงานให้มีทักษะที่สูงขึ้นและตรงกับความต้องการของตลาด โดยจะทำให้สามารถรองรับตลาดแรงงานในประเทศไทย รวมถึงส่งออกแรงงานไทยสู่การทำงานในแถบเอเชียและภูมิภาคอื่น มีอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน
"ในฐานะที่กำกับดูแล กพร. จะเร่งพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีทักษะที่ตอบโจทย์ และประสานข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงาน เพื่อให้แรงงานไทยมั่นใจการมีงานทำและสวัสดิการที่ดี และสามารถไปทำงานที่ประเทศจีนได้ต่อไป" รมช.แรงงาน กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: กระทรวงแรงงาน