นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) (NDR) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติเข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญในบริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด จำนวน 157,500 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 100 บาท ในราคา 382.22 บาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 35% ของทุนจดทะเบียนของ ETRAN ด้วยมูลค่ารวม 60.20 ล้านบาท
โดยบริษัทจะชำระค่าหุ้นสามัญของ ETRAN โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทในลักษณะการเสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) แทนการชำระด้วยเงินสด จำนวนไม่เกิน 31.5 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาเสนอขายหุ้นละ 2.72 บาท คิดเป็นมูลค่า 60.20 ล้านบาท (Share Swap) โดยมีอัตราแลกเปลี่ยนหุ้นเท่ากับ 1 หุ้นใหม่ของ ETRAN ต่อ 140.52 หุ้นใหม่ของบริษัท
ทั้งนี้ อีทราน ประกอบธุรกิจออกแบบพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์อีทราน (ETRAN) โดยการเข้าลงทุนดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของบริษัทฯในการมองหาธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโต เพื่อสร้าง New S-curve ซึ่งเล็งเห็นว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเป็นธุรกิจที่กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของ Growth Cycle
กรรมการผู้จัดการ NDR กล่าวอีกว่า สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการร่วมลงทุนครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ เข้าไปสู่อุตสาหกรรมที่มีขนาดของตลาดใหญ่ขึ้น และต่อยอดจากธุรกิจเดิม อีกทั้งจะช่วยสนับสนุนให้ผลดำเนินการของบริษัทฯเติบโตอย่างต่อเนื่องและก้าวกระโดดได้ในอนาคต โดยคาดว่า ETRAN จะสามารถสร้างรายได้ และผลกำไรได้ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป
"ต้องยอมรับว่าปัจจุบันเทรนด์ EV กำลังเป็นที่นิยม ซึ่ง NDR ในฐานะผู้ผลิตยางในและยางนอกรถจักรยานยนต์ อยู่ในอุตสากรรมรถจักรยานยนต์มาอย่างยาวนานเล็งเห็นถึงโอกาส ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาเราได้เริ่มให้ความสนใจทำการศึกษาหาข้อมูลของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน พบว่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเกือบทั้งหมดในตลาดเป็นรถนำเข้าสามารถวิ่งได้ประมาณ 30-50 กิโลเมตรต่อการชาร์จ และทำความเร็วได้ประมาณ 50-60 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งไม่สามารถตอบสนองกับความต้องการของผู้ใช้ ขณะที่ แบรนด์ ETRAN เป็นการพัฒนาและคิดค้นโดยคนไทย 100% โดยจุดเด่น คือ รถสามารถทำความเร็วได้ถึง 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง และใช้งานได้ประมาณ 180 กิโลเมตรต่อการชาร์จ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สามารถใช้งานแทนรถน้ำมันได้จริง จึงมั่นใจว่าแบรนด์รถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าของ ETRAN จะสามารถตอบโจทย์ของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี และจะเป็นตัวกระตุ้นให้ตลาดตื่นตัวอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในหัวเมืองใหญ่ที่มีปัญหา PM2.5 ถ้ารถทุกคันเป็นรถไฟฟ้าเราจะช่วยลดปัญหามลภาวะลงไปได้อย่างมหาศาล" นายชัยสิทธิ์ กล่าว
กรรมการผู้จัดการ NDR กล่าวทิ้งท้ายว่า บริษัทฯยังคงประมาณการรายได้ในปีนี้เติบโต 15-20% ตามเดิม เนื่องจากรายได้จากธุรกิจของ ETRAN จะเริ่มเห็นตัวเลขที่ชัดเจนและเติบโตแบบก้าวกระโดดในปี 2565 โดยเชื่อมั่นว่าการลงทุนครั้งนี้จะสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในอนาคตต่อยอดจากธุรกิจหลักของบริษัทฯ ซึ่งนอกจากในเรื่องของการทำธุรกิจแล้วการเลือกลงทุนใน EV ยังถือเป็นการรับผิดชอบต่อสังคมที่จะช่วยลดมลพิษจากท่อไอเสียของรถได้อีกด้วย
นายสรณัญช์ ชูฉัตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด (ETRAN) ภายใต้แนวคิด Drive The Better World เปิดเผยว่า ในปีนี้อีทรานวางแผนจะเปิดตัวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าพลังงานสะอาด จำนวน 2 รุ่น คือ รุ่น KRAF สำหรับทำตลาดในกลุ่มผู้ใช้รถมอเตอร์ไซด์ทั่วไป และรุ่นที่ 2 MYRA จับกลุ่มไรเดอร์เดลิเวอรี่ รวมทั้งจะมีการขยายสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ หรือ ETRAN Power Station จำนวน 100 สถานี ในเขตกรุงเทพมหานคร ใน 3 ปี เพื่อรองรับผู้ใช้งาน โดยเฉพาะกลุ่มไรเดอร์
นอกจากนี้ ยังมีแผนการพัฒนาเทคโนโลยีรถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าพลังงานสะอาดให้มีประสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย อาทิ เทคโนโลยีมอเตอร์และแบตเตอรี่สมรรถนะสูง เทคโนโลยีด้านความปลอดภัย และเทคโนโลยีการผลิตที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยวางเป้าหมายมียอดขาย 50% ของตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารวม ภายในปี 2568 ด้วยยอดขาย กว่า 100,000 คัน และอีทรานมีเป้าหมายเปลี่ยนวงการรถมอเตอร์ไซค์สู่พลังงานสะอาด ด้วยการสร้างประสบการณ์ให้ผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ตระหนักถึงการมีส่วนช่วยสิ่งแวดล้อมและสังคมได้ ด้วยการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ซึ่งไม่สร้างมลพิษทางอากาศและมลพิษเสียงเพื่อโลกที่ดีกว่า โดยตามแผนการดำเนินธุรกิจ ETRAN ในปี 2565 ตั้งเป้ารายได้ อยู่ที่ประมาณ 400-500 ล้านบาท และในปี 2566 คาดว่ารายได้จะเติบโตก้าวกระโดดแตะระดับ 1,000 ล้านบาทได้
นายอาร์ชวัส เจริญศิลป์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังมีความพยายามพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) กับภาคนโยบาย (Policy) เพื่อผลักดัน EV ในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ส่งผลให้ตลาด EV ในประเทศมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งนี้ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจและเตรียมพร้อมรับโอกาสจากแนวโน้มตลาด EV ที่จะเติบโต อีทรานได้วางแผนปรับองค์กร ก้าวจากสตาร์ทอัพสู่องค์กรธุรกิจเต็มรูปแบบ ด้วยการวางแผนพัฒนาองค์กรและสร้างแบรนด์อย่างยั่งยืน เป็นองค์กรที่มีธรรมาภิบาลรอบด้าน ทั้งในเรื่องของการบริหารจัดการ การเงิน การตลาด การสร้างแบรนด์ การสร้างวัฒนธรรมองค์กร เพื่อนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายเพื่อเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต ด้วยอีทรานมีเป้าหมายที่ใหญ่กว่าเป็นเพียงผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แต่จะเป็นผู้นำให้เกิดขบวนการขับเคลื่ออุตสาหกรรมยานยนต์สู่การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ที่มา: เอ็น.ดี.รับเบอร์