นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (TACC) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 1/64 มีรายได้จากการขาย 325.25 ล้านบาท ลดลง 2.91 ล้านบาท คิดเป็น 0.89% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้จากการขาย 328.16 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากผลกระทบโควิด-19 ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงมียอดขายเติบโตจากกลุ่มเครื่องดื่ม non coffee ในมุม All Cafe ที่มากขึ้นตามจำนวนสาขาและการจำหน่ายสินค้าขนาด 22 ออนซ์ และกลุ่มสินค้าที่ร่วมพัฒนากับ B2B (7-11 และ Non 7-11)
ขณะที่กำไรในไตรมาส 1/64 อยู่ที่ 46.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.05 ล้านบาท คิดเป็น 9.50% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 42.64 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯเพิ่มขึ้น โดยมาจากการบริหารจัดการควบคุมพัฒนาค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และขายสินค้าที่มีกำไรสูงในสัดส่วนเพิ่มขึ้น
"แม้จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ แต่บริษัทฯยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนงานที่วางไว้ โดยตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10% เทียบปีที่ผ่านมา ภายใต้กลยุทธ์การเพิ่มยอดขายด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ส่งเครื่องดื่มใหม่เข้าโถกดในเซเว่นฯ , All Cafe และเพิ่มขนาดเป็น 22 ออนซ์ ซึ่งในปีนี้จะรับรู้รายได้เต็มปี โดยได้มีการวางแผนการตลาดร่วมกันกับเซเว่นฯ เพื่อกระตุ้นยอดขาย รวมถึงในช่องทาง Delivery Platform อีกทั้งจะมีการขยายตลาดไปยังกลุ่ม Cafe Business ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตของปีนี้" ในส่วนของธุรกิจ "คาแรคเตอร์" ในปีนี้ บริษัทฯได้มีคาแรคเตอร์ใหม่ "Jay The Rabbit" จับกลุ่มคนโสด และกลุ่มออฟฟิศที่มีกำลังซื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างดีเยี่ยม เช่นเดียวกับคาแรคเตอร์ "Rilakkuma" และ "หมาจ๋า" และในเร็วๆ นี้ เตรียมเปิดตัวคาแรคเตอร์ตัวใหม่ เพื่อกระตุ้นยอดขาย ประธานกรรมการบริหาร TACC กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งหลังของปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง หากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ซึ่งจะทำให้กิจกรรมเศรษฐกิจต่างๆ เริ่มกลับมาคึกคัก กระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยในส่วนของการร่วมลงทุนกับ บริษัท ไทยคานาเทค อินโนเวชั่น จำกัด (TCI) ในการทำกัญชาทางการแพทย์และกัญชงทั้งต้นน้ำถึงปลายน้ำ ขณะนี้ TACC อยู่ระหว่างศึกษาตลาดและความต้องการของผู้บริโภค เพื่อเตรียมส่งสินค้าบุกตลาดในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ซึ่งยังคงต้องรอประกาศข้อกำหนดจากกองอาหารและยา (อย.)
ที่มา: ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์