นายสมนึก กล่าวถึงสถานการณ์ COVID-19 ระลอกใหม่ ส่งผลให้อุปสงค์ของผู้บริโภคลดลง อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ไตรมาสแรก มีการจัดกิจกรรมทางการตลาดซึ่งสามารถกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพผู้ซื้อบ้าน พร้อมรองรับฟังก์ชั่นบ้านที่พร้อมมีพื้นที่ทำงาน Work From Home รวมถึงแคมเปญช่วยลดภาระการซื้อบ้านช่วงต้นปี ให้กับผู้บริโภค ที่ผ่านมามีปัจจัยบวกจากการปรับตัวขององค์กร อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง มองหาตลาดใหม่ๆ ที่มีความต้องการและมีโอกาสเติบโตอยู่เสมอ มีการพัฒนาโปรดักซ์ ในทำเลหลัก เปิดตลาดเชิงรุก พัฒนา
โครงการแนวราบใหม่ในปี 2564 เพิ่ม 7 โครงการ มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท พัฒนาสินค้าทาวน์เฮ้าส์, บ้านแฝด, บ้านเดี่ยว ระดับราคา 3-5 ล้านบาท ด้วยราคาที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดบ้านแนวราบ โดยขยายทำเลเพิ่มครอบคลุมพื้นที่ 4 ทำเลศักยภาพ (โซนเหนือ , โซนตะวันตก,โซนใต้ และโซนตะวันออก ของกรุงเทพฯและปริมณฑล) เพิ่มกำลังการผลิตบ้านด้วยระบบเทคโนโลยีการก่อสร้างทันสมัยขยายฐานลูกค้าใหม่ในกลุ่มตลาดบ้านแนวราบ ทำให้ เอ็น.ซี มีความพร้อมที่จะเดินตามแผน ในตลาดศักยภาพใหม่ๆ รุกต่อด้วยเป้ายอดขาย 3,500 ล้านบาท และรับรู้รายได้ปี 2564 ที่ 2,000 ล้านบาท นายสมนึกกล่าวปิดท้าย
ที่มา: เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง