Kick off รณรงค์ป้องกันและกำจัดโรคลัมปี สกิน จังหวัดขอนแก่น ยืนยันโค-กระบือหากเป็นแล้วรักษาหาย เนื้อทานได้ ไม่ติดต่อสู่คน

อังคาร ๒๕ พฤษภาคม ๒๐๒๑ ๑๕:๓๓
นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมแก้ไขปัญหาและแนวทางมาตรการป้องกันโรคระบาด โรคลัมกี สกิน ในพื้นที่เขต 3 และเขต 4 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ ห้องประชุมสำนักงานเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดขอนแก่น และเป็นประธานเปิดงาน Kick off รณรงค์ป้องกันและกำจัดโรคลัมปี สกิน (Lumpy skin Disease) ที่จังหวัดขอนแก่น ว่า จากการติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคลัมปี สกิน อย่างใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งแก้ไขปัญหาการควบคุมโรคอย่างเร่งด่วน ดังนั้นเพื่อให้การควบคุม ป้องกัน และกำจัดโรค เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพื่อคลายความวิตกกังวลของเกษตรกร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดงาน Kick off รณรงค์ป้องกันและกำจัดโรคลัมปี สกิน ระหว่างวันที่ 25 - 26 พ.ค. 64 ณ จังหวัดขอนแก่น สกลนคร และมุกดาหาร โดยกิจกรรมประกอบด้วย 1) ปล่อยขบวนสัตวแพทย์เคลื่อนที่ไปตามพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อรักษาโค -กระบือ ที่ป่วย โดยเป็นการรักษาตามอาการในเบื้องต้น 2) ปล่อยขบวนหน่วยพ่นยาทำลายเชื้อโรคและพ่นสารเคมีกำจัดแมลง ซึ่งเป็นพาหะของโรค เพื่อยับยั้ง ชะลอการแพร่ระบาด 3) แจกสารเคมีกำจัดแมลงที่เป็นพาหะ แจกยารักษาแผลภายนอก ยาบำรุง แร่ธาตุ ตลอดจนให้ความรู้ความเข้าใจโรคและการป้องกันให้กับเกษตรกร สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง โรคลัมปี สกิน เป็นแล้วรักษาหาย เนื้อทานได้ ไม่ติดต่อสู่คน พร้อมทั้งสั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ของโรคอย่างใกล้ชิด

"พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงอย่างยิ่งต่อสถานการณ์การระบาดในปัจจุบัน จึงได้สั่งการมาให้รีบมาแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้มีการติดตามระยะของโรคมาตั้งแต่ต้นปี 2564 ซึ่งมีการระบาดในประเทศเพื่อนบ้าน และมีการสั่งปิดด่านเคลื่อนย้ายสัตว์ระหว่างชายแดนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ แต่การระบาดของโรคลัมปี สกิน ได้มาปรากฏขึ้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดเป็นจังหวัดแรก ขณะนี้กระจายไปทั่ว 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สร้างความตื่นตระหนกกับเกษตรกรอย่างมาก เพราะเป็นโรคอุบัติใหม่ในประเทศไทย เกษตรกรไม่รู้รายละเอียดของโรค ซึ่งขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ ได้ข้อสรุปของโรคแล้ว ขอรับรองว่ารักษาหาย เนื้อทานได้ ไม่ติดต่อถึงคน โดยกระทรวงเกษตรฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วางมาตรการป้องกันและกำจัดโรคลัมปี สกินแล้ว ขอให้เกษตรกรอย่าวิตกกังวล ให้ติดตามข้อมูลจากเจ้าที่ปศุสัตว์เป็นหลัก โดยเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จะลงพื้นที่เชิงรุกอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับเกษตรกร" รมช.ประภัตร กล่าว

ปัจจุบันพบรายงานการเกิดโรคในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว 20 จังหวัด สัตว์ป่วยรวมจำนวน 8,964 ตัว ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ โดยกรมปศุสัตว์จะออกให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันแก่โค-กระบือของเกษตรกร โดยดำเนินการตามแผนปฏิบัติการของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาโรคลัมปี สกิน และเน้นย้ำหน่วยงานในพื้นที่ให้เพิ่มความเข้มงวด ไม่ให้มีการขนย้ายสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตโดยเด็ดขาด และเตรียมเสนอเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี เพื่อขอใช้งบกลางในการสนับสนุนอุปกรณ์และปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ 1) มุ้งสีฟ้าตาถี่ สำหรับแจกจ่ายให้เกษตรกรใช้กางให้กับสัตว์ เพื่อป้องกันแมลงดูดเลือด และยุงที่เป็นพาหะนำโรค 2) ยารักษาโรคสัตว์ป่วยทั่วไป 3) ยาฉีดกำจัดปรสิต 4) ยาทาภายนอกสำหรับกำจัดปรสิต 5) ยาฆ่าเชื้อไวรัส 6) เครื่องพ่นหมอกควัน สำหรับให้เกษตรกรไว้ใช้พ่นหมอกควันกำจัดแมลงในชุมชน

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้หน่วยงานปศุสัตว์ในพื้นที่รณรงค์เชิญชวนให้เกษตรกรหันมาทำประกันสัตว์ ซึ่งจ่ายเบี้ยประมาณ 400 บาทต่อ 6 เดือน แต่คุ้มครองการตายของสัตว์ทุกกรณี 30,000 บาท และยังเตรียมหารือ เรื่องการจ่ายเงินตอบแทนให้กับอาสาสมัครปศุสัตว์ ซึ่งมีทั่วประเทศจำนวนกว่า 60,000 คน อีกทั้งยังได้เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้ทำการประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบในเชิงรุกและทั่วถึง ในเรื่องของรายละเอียดของโรคลัมปี สกิน และการดูแลสัตว์เบื้องต้นในสถานการณ์การระบาดของโรค รวมถึงการสังเกตุอาการของสัตว์ในเบื้องต้น

ทั้งนี้ หากเกษตรกรต้องการความช่วยเหลือเบื้องต้น หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคลัมปี สกิน สามารถติดต่อได้ที่หน่วยงานปศุสัตว์ในพื้นที่ของท่าน หรือติดต่อสำนักควบคุมโรค ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ (สบค.) กรมปศุสัตว์ หรือสายด่วนแจ้งโรคระบาดกรมปศุสัตว์ โทร 063 - 225 - 6888 หรือแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน DLD 4.0 "แจ้งการเกิดโรคนะบาด" ได้ตลอดเวลา และสามารถติดตามสถานการณ์การระบาดและศึกษาองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับโรคลัมปี สกิน ได้ที่เว็บไซต์ของสำนักควบคุม ป้องกันแบะบำบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ www.sites.google.com/view/dldlsd/home.com

ที่มา: กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ