ธนาคารกรุงเทพเน้นเชิงรุก แนะนำลูกค้าเข้าโครงการสินเชื่อฟื้นฟู หวังให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากมาตรการที่ยืดหยุ่นและเปิดกว้างยิ่งขึ้น

ศุกร์ ๒๘ พฤษภาคม ๒๐๒๑ ๑๖:๕๙
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดมาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบกับทุกภาคส่วนในวงกว้าง ธนาคารตระหนักและเข้าใจถึงความจำเป็นของลูกค้าเป็นอย่างดี และที่ผ่านมาธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือเพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่องเฉพาะหน้าไปแล้วบางส่วน นับเป็นการช่วยให้ลูกค้าสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ อย่างไรก็ตามเมื่อธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลัง ได้ออกมาตรการสินเชื่อฟื้นฟู และมาตรการพักทรัพย์ พักหนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3 เจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงเทพได้เร่งออกไปพบลูกค้าผู้ประกอบธุรกิจทั่วประเทศ เพื่อให้คำแนะนำและสร้างความเข้าใจในมาตรการดังกล่าว โดยมุ่งหวังให้ลูกค้าได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่และรวดเร็วทันสถานการณ์ ซึ่งลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งนี้ ธนาคารได้ตั้งเป้าในการปล่อยสินเชื่อ 15,000 ล้านบาทจากมาตรการดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบธุรกิจ โดยธนาคารได้เตรียมความพร้อมไว้อย่างเต็มที่ ทั้งบุคลากรและระบบงานต่างๆ เช่นเดียวกับที่ได้สนับสนุนในทุกมาตรการความช่วยเหลือตามนโยบายของภาครัฐก่อนหน้านี้

"ที่ผ่านมา ธนาคารได้ให้การช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบธุรกิจนับหมื่นราย ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้สามารถประคองกิจการผ่านช่วงที่ยากลำบากไปได้ อีกทั้งยังส่งผลดีต่อเนื่องถึงคู่ค้าที่เกี่ยวข้อง โดยการช่วยเหลือมีทั้งการปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ และการให้สินเชื่อเพิ่มเติม โดยใช้ซอฟท์โลนจากมาตรการของ ธปท. และกระทรวงการคลัง รวมทั้งสินเชื่อจากธนาคารกรุงเทพบางส่วน เพื่อเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ รวมถึงพยุงการจ้างงาน เมื่อภาครัฐมีมาตรการนี้ออกมาเพิ่มเติม เราก็พร้อมทำงานต่อเพื่อสนับสนุนอย่างเต็มที่"

นายชาติศิริ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารกรุงเทพให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งแบ่งเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงแรก ดำเนินการช่วยเหลือในเรื่องสภาพคล่อง เพื่อให้สามารถประคับประคองกิจการและพนักงานของตนเองได้ ช่วงที่ 2 เมื่อธุรกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว ลูกค้ามีความต้องการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อพัฒนาบริการและผลิตสินค้าให้ได้ครบตามคำสั่งซื้อ ธนาคารก็จะให้การสนับสนุนในเรื่อง Working Capital และช่วงที่ 3 เมื่อธุรกิจดำเนินไปได้ระดับหนึ่ง อาจต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง Business Model ให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไป ธนาคารก็พร้อมสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถดำเนินการได้ตามแผน ซึ่งยืนยันถึงจุดยืนของธนาคารกรุงเทพ ในการเป็น "เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน" ที่พร้อมเคียงข้างและสนับสนุนลูกค้าในทุกช่วงเวลา ทั้งด้วยมาตรการจากภาครัฐและจากธนาคาร

สำหรับมาตรการล่าสุดที่ ธปท. และกระทรวงการคลัง ได้ออกมา ได้แก่ มาตรการสินเชื่อฟื้นฟู เพื่อประคับประคองให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ มีสภาพคล่องสำหรับดำเนินธุรกิจ หรือเพื่อฟื้นฟูธุรกิจให้สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจต่อได้ โดยมีเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นและเปิดกว้าง สำหรับทั้งลูกค้าปัจจุบันที่มีวงเงินสินเชื่อธุรกิจกับธนาคารไม่เกิน 500 ล้านบาท ณ 28 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งสามารถขอวงเงินสินเชื่อฟื้นฟูได้สูงสุด 30% ของวงเงินเดิม สูงสุดไม่เกิน 150 ล้านบาท (นับรวมกับวงเงิน Soft Loan เดิมที่เคยได้รับตาม พ.ร.ก.) และลูกค้าใหม่ที่ยังไม่เคยมีวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงินใด สามารถขอสินเชื่อได้สูงสุด 20 ล้านบาท โดยนับรวมวงเงินจากทุกสถาบันการเงิน ในช่วง 5 ปีแรก คิดอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยไม่เกิน 5% ต่อปี โดยช่วง 2 ปีแรก คิด 2% ต่อปี ทั้งยังได้รับยกเว้นดอกเบี้ย 6 เดือนแรกจากการสนับสนุนของกระทรวงการคลัง ขณะเดียวกันธนาคารได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขอสินเชื่อ เพื่อช่วยลดภาระผู้ประกอบธุรกิจให้ก้าวข้ามสถานการณ์ที่ยากลำบากในเวลานี้ อีกทั้ง บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จะเป็นผู้ค้ำประกันสินเชื่อทุกราย คิดค่าธรรมเนียมการค้ำประกันไม่เกิน 1.75% ต่อปี โดยรัฐบาลจะชดเชยค่าธรรมเนียมการค้ำประกันให้บางส่วน

ในส่วนมาตรการพักทรัพย์ พักหนี้ (Asset Warehousing) เพื่อลดภาระทางการเงินของผู้ประกอบธุรกิจที่มีศักยภาพ ซึ่งได้รับผลกระทบและต้องใช้ระยะเวลานานในการฟื้นตัว ด้วยการโอนทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันชำระหนี้ให้กับธนาคาร ตามราคาที่ตกลงกัน โดยผู้ประกอบธุรกิจสามารถเช่าทรัพย์สินนั้นเพื่อไปประกอบธุรกิจได้ตามอัตราค่าเช่าที่ตกลงกัน และให้สิทธิผู้ประกอบธุรกิจในการซื้อทรัพย์คืน ภายใน 3-5 ปี

สำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่สนใจเข้าร่วมมาตรการดังกล่าว ตลอดจนมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ ของธนาคารกรุงเทพ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ธุรกิจสัมพันธ์ หรือสาขา หรือสำนักธุรกิจของธนาคารกรุงเทพทั่วประเทศ เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงติดตามข้อมูลอื่นๆ ที่น่าสนใจของธนาคาร ได้จากสื่อประชาสัมพันธ์ของธนาคารกรุงเทพทุกช่องทาง ได้แก่ www.bangkokbank.com, Bangkok Bank LINE Official หรือ โทร.1333 หรือ 0 2645 5555

ที่มา: ธนาคารกรุงเทพ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๒๔ แจกจริง! แบรนด์ซุปไก่สกัดส่งมอบรถเทสล่า มูลค่า 1.649 ล้านบาท ให้ผู้โชคดี ในแคมเปญ ดื่มแบรนด์ สแกนเลขในขวด ปี
๑๓:๕๐ GFC ตอบโจทย์ทุกความปลอดภัยเรื่องอาคาร - ถังแช่แข็งตัวอ่อน เปิดให้บริการสำหรับผู้มีบุตรยากตามปกติครบ 3
๑๓:๕๗ KJL ลุยภาคใต้! จัดใหญ่สัมมนา 'รวมพลคนไฟฟ้า ON TOUR' ที่ภูเก็ต
๑๒:๐๐ แว่นท็อปเจริญ จับมือ กรมกำลังพลทหารบก แนะแนวการศึกษาและอาชีพ สร้างโอกาสแก่ทหารกองประจำการและครอบครัว
๐๒ เม.ย. AnyMind Group คว้ารางวัล Gold ในงาน Martech Innovation Awards 2025
๐๒ เม.ย. โชว์พลังดีไซน์ไทยในงาน STYLE Bangkok 2025 รวมแบรนด์ดาวรุ่งจาก Talent Thai และ Designers' Room ที่คุณไม่ควรพลาด
๐๒ เม.ย. ธนาคารกสิกรไทย จัดสัมมนาใหญ่ K WEALTH Forum: เจาะลึก 5 ปัจจัยเปลี่ยนเกมการลงทุนโลก
๐๒ เม.ย. PSP ปิดดีลทุ่ม 409.5 ลบ. ถือหุ้นใน รีไซเคิล เอ็นจิเนียริ่ง (RE) ปักหมุดธุรกิจสู่ศูนย์กลางรีไซเคิลสารเคมีแห่งภูมิภาค
๐๒ เม.ย. กลุ่มซีไอเอ็มบี เปิดรับสมัครสอบชิงทุน CIMB ASEAN Scholarship 2025 ทุนเรียนต่อปริญญาตรี - ปริญญาโท พร้อมโอกาสร่วมงานกับกลุ่มซีไอเอ็มบี
๐๒ เม.ย. ศูนย์การค้าเครือเอ็ม บี เค เปิดพิกัดจุดสรงน้ำพระ เสริมสิริมงคลกับเทศกาล สงกรานต์อิ่มบุญ