พช.นครพนม จับมือภาครัฐภาคเอกชน ยกระดับการพัฒนา OTOP ตามโครงการส่งเสริมเครือข่ายองค์ความรู้ KBO

จันทร์ ๐๗ มิถุนายน ๒๐๒๑ ๐๘:๕๔
วันที่ 4 มิถุนายน 2564 สำนักเทคโนโลยีดิจิทัล มหาวิทยาลัยนครพนม ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม  นายสุรพล  แก้วอินธิ พัฒนาการจังหวัดนครพนม เป็นประธานในการเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ ผ่านระบบ Video Conference เพื่อพัฒนาผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP โดยเครือข่ายองค์ความรู้ KBO (Knowledge-Based OTOP) ณ สำนักเทคโนโลยีดิจิทัล มหาวิทยาลัยนครพนม ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม และให้แนวทางการพัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์ OTOP ให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน มีบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม และสามารถเพิ่มมูลค่า สร้างนวัตกรรม และเตรียมผลิตภัณฑ์ OTOP ที่ผ่านกระบวนการพัฒนาโดยคณะกรรมการเครือข่ายองค์ความรู้ KBO จังหวัดๆ ละ 1 ผลิตภัณฑ์ เข้าร่วมประกวดและเผยแพร่ผลงานโดยให้ยึดหลักการพัฒนา 5 ส. ได้แก่ 1)สุขภาพ คือผลิตภัณฑ์ต้องสะอาดและมีมาตรฐาน 2)สิ่งแวดล้อม คือการนำวัตถุดิบทางธรรมชาติมาใช้และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 3)สะดวกสบาย คือคำนึงถึงการใช้งาน ซื้อขาย บรรจุภัณฑ์เหมาะสม 4)สมเหตุ สมผล คือวัสดุที่ใช้ภูมิปัญญา ความจำเป็นในการใช้งาน ราคาเหมาะสม 5)สร้างคุณค่า คือความสวยงาม ชุมชนได้ประโยชน์ ผู้บริโภคพึงพอใจ

ทั้งนี้ แนวทางการพัฒนา จะต้องนำคนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมมีการถ่ายทอดภูมิปัญญา สร้างความแตกต่างในตัวผลิตภัณฑ์ เชื่อมโยงตลาดทุกช่องทาง ทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถปรากฏในทุกมุมโลก โดยมีกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการ 20 กลุ่ม แบ่งเป็นประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย 9 กลุ่ม ประเภทของใช้ของที่ระลึกและของตกแต่ง 8 กลุ่ม ประเภทอาหาร 2 กลุ่ม และประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร 1 กลุ่ม

ในการนี้ ได้รับเกียรติจาก คุณธัญญ์นภัส กิ่งสุวรรณ (อุ๋งอิ๋ง)Designer, Creative, Writer, เจ้าของแบรนด์ THORR  เป็นวิทยากรบรรยาย ผ่านระบบ Video Conference ให้คำแนะนำแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และโอกาสความเป็นไปได้ในมุมมองด้านการตลาด (การตลาดนำการผลิต) การออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมและสวยงาม การควบคุมคุณภาพในการผลิต การบริหารจัดการต้นทุนการผลิต รูปแบบการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่แสดงความเป็นอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เชื่อมโยงตลาดสู่สากล โดยจังหวัดนครพนม จะขยายโอกาสความร่วมมือกับ THORR ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปสู่ตลาดโลกได้มากขึ้น จากเดิมที่มีความร่วมมือร่วมกันมาตั้งแต่จุดเริ่มต้นโครงการผ้าทออีสานสู่สากลในปีที่ผ่านมาโดยร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้า ต่อยอดเป็นคู่ค้ากับกลุ่มทอผ้าบ้านหนองนางด่อน อำเภอวังยาง มียอดซื้อขายสร้างรายได้ให้กลุ่มกว่า 100,000 บาท สร้างเครือข่ายการพัฒนาและเป็นคู่ค้ากับกลุ่มทอเสื่อกกบ้านเหล่าพัฒนา อำเภอนาหว้า มียอดซื้อขายสร้างรายได้ให้กลุ่มกว่า 500,000 บาท และกลุ่มจักสานผลิตภัณฑ์ไม้ไผ่ บ้านนาคูณใหญ่ อำเภอนาหว้า มียอดซื้อขายสร้างรายได้ให้กลุ่มกว่า 100,000 บาท นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงพัฒนาและเป็นคู่ค้ากับกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จังหวัดนครพนม อย่างต่อเนื่อง เป็นตลาดที่กำลังการผลิตมาจากชุมชน กระจายรายได้ สร้างงาน สร้างอาชีพ ทำให้ชุมชนเข้มแข็ง ผู้สูงอายุมีกำลังใจ สุขภาพแข็งแรง มีสังคม มีรายได้ สร้างงานให้คนรุ่นใหม่ไม่ต้องวิ่งเข้าเมืองใหญ่ เพื่อไปหางานทำ ปลูกฝังให้คนรุ่นหลังเห็นคุณค่าต้นทุนทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น

นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากทีมอาจารย์ที่ปรึกษาจากมหาวิทยาลัยนครพนม ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์การทำงานด้านการออกแบบ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทอาหาร , ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร, ประเภทของใช้ของที่ระลึกและของตกแต่ง, ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย รวมจำนวน 7 คน มาเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำ วิเคราะห์และแก้ไขปัญหาต่างๆ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้ได้ตามเกณฑ์แนวทางพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP โดยเครือข่ายองค์ความรู้ KBO ในเรื่องการรับรองมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์มีคุณภาพ สามารถผลิตซ้ำได้ในปริมาณและคุณภาพใกล้เคียงกัน มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะตัวนำเสนอเรื่องราวที่สร้างสรรค์น่าสนใจ มีตลาดจำหน่ายที่ถาวร และมีแบรนด์สินค้าที่สามารถนำไปใช้ในการส่งเสริมการตลาด พร้อมทั้งการพัฒนาเส้นใยสับปะรดซึ่งเป็นพืช GI ของจังหวัดนครพนม มาใช้ในการทอผ้าโดยนำเศษเหลือทิ้งทางการเกษตรมาสร้างให้เกิดมูลค่าเพิ่มจาก "ใบของต้นสับปะรด" มาทำเป็นเส้นใยที่มาจากธรรมชาติมาผสมผสานกับเส้นใยฝ้ายที่ชุมชนใช้อยู่ในปัจจุบันผ่านกระบวนการย้อมทอแบบธรรมชาติโดยเน้นใช้สีย้อมจากไม้มงคล โดยทุกขั้นตอนใช้กระบวนการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการแปรรูปสับปะรดเป็นเกลือสปาและสบู่สับปะรด รวมถึงการแปรรูปฟักทองเป็นฟักทองผงอบแห้ง ฟักทองเชื่อมอบแห้ง เป็นการพัฒนาเพิ่มมูลค่าพืชผลทางการเกษตรและช่วยเกษตรกรที่ประสบปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำและสินค้าล้นตลาด

ในการจัดประชุมครั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย ผู้ผลิต ผู้ปะกอบการ OTOP จำนวน 20 กลุ่ม/คน คณะกรรมการ KBO จำนวน 5 คน และทีมอาจารย์ที่ปรึกษาจากมหาวิทยาลัยนครพนม จำนวน 7 คน รวม 32 คน ซึ่งได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด โดยผู้เข้าร่วมประชุมมีการตรวจวัดอุณหภูมิ สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา และจัดประชุมผ่านระบบ Video Conference โดยแบ่งกลุ่มประชุม ออกเป็น 4 ห้องๆ ละ 8 คน และเชื่อมโยงระบบ Video Conference ทุกห้อง

ที่มา: อิมเมจ โซลูชั่น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ