คิว ไบโอซายน์ ชี้ตลาดกลุ่มคัดกรองโควิดมีแนวโน้มเติบโต แนะนำ "COVID-19 Solution" กลุ่มผลิตภัณฑ์การตรวจโควิด-19 ที่ทันสมัย สู่โอกาสของไทย

พฤหัส ๑๗ มิถุนายน ๒๐๒๑ ๑๖:๐๙
บริษัท คิว ไบโอซายน์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีชื่อเสียงและเทคโนโลยีอันเป็นที่ยอมรับทั่วโลก แนะนำ "COVID-19 Solution" (โควิด-19 โซลูชัน) นวัตกรรมการตรวจวินิจฉัยโรค ประกอบด้วย 4 หมวดสำคัญ ดังนี้ 1. ชุดจัดเก็บสิ่งส่งตรวจ 2. ชุดตรวจหาเชื้อไวรัส 3. ชุดตรวจภูมิคุ้มกันแบบรวดเร็ว และ 4. ชุดควบคุมคุณภาพระหว่างทดสอบ ตัวช่วยสำคัญในห้องปฏิบัติการของบุคลากรทางการแพทย์ ในการรุกตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับประชาชนซึ่งมีอัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง พร้อมช่วยให้ระบบการทำงานของทีมแพทย์มีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้น ภายใต้การทำงานที่มีข้อจำกัดทั้งด้านเครื่องมือทางการแพทย์ เวลา และจำนวนบุคลากร นอกเหนือจากนี้ร่วมอัปเดตแนวทางการตรวจวินิจฉัยโควิด-19 ทางห้องปฏิบัติการในประเทศไทยที่ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ สู่โอกาสของไทยให้พร้อมรองรับการเปิดภาคธุรกิจ กับนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ให้ผลตรวจรวดเร็วและแม่นยำ

นายธีราพงศ์ สุทธิพงศ์ธนาภัทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิว ไบโอซายน์ จำกัด กล่าวถึงภาพรวมการบริหารงานว่า คิว ไบโอซายน์ มีวิสัยทัศน์มุ่งมั่นที่จะพัฒนาห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ในประเทศไทย พัฒนาระบบการบริการทางการแพทย์ให้ดียิ่งขึ้น ครอบคลุมทั้งทางเทคโนโลยีการตรวจรักษา การวินิจฉัย การติดตามผลการรักษา เนื่องด้วยบริษัทฯ ตระหนักดีถึงความสำคัญของผลการตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ว่า มีส่วนช่วยในการรักษาผู้ป่วยของแพทย์ให้เป็นไปอย่างถูกต้องและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์สูงสุดแก่คนไข้ ด้วยเหตุนี้ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานมากว่า14 ปี บริษัทฯ จึงตั้งใจเฟ้นหาและเลือกสรรผลิตภัณฑ์ทางสุขภาพที่เป็นนวัตกรรมสมัยใหม่ มีคุณภาพสูงและเป็นที่ยอมรับในระดับสากลมาจัดจำหน่ายในประเทศไทย พร้อมให้ความสำคัญอย่างมากกับการให้บริการทั้งก่อนและหลังการขายตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเครื่องมือและระบบต่างๆ นั้น สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แม่นยำ ทำให้แพทย์ผู้ใช้งานสามารถใช้ผลวางแผนการรักษาผู้ป่วยให้ดีที่สุด

ในด้านการดำเนินงานบริหาร บริษัทฯ มีทีมในการเข้าให้ข้อมูลกับลูกค้าในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ เช่น พิจารณาการระบาด นโยบายการรับมือในพื้นที่นั้นๆ หรือเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัย ร่วมกับแนวทางการใช้งานของแพทย์ เน้นสร้างความรู้ ความเข้าใจ และโรงพยาบาลต้องสามารถบริหารจัดการได้ภายใต้งบประมาณของสถานพยาบาล

นายธีราพงศ์ กล่าวเสริมว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อประเทศไทยต้องประสบกับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อันเป็นวิกฤตครั้งใหญ่และกินเวลามาเป็นระยะนาน รวมถึงมีการเกิดระลอกใหม่ขึ้น ส่งผลให้ทีมแพทย์ พยาบาล ต้องทำงานหนักแข่งขันกับเวลาที่จำกัด และจำนวนผู้ติดเชื้อมีเพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนั้น คิว ไบโอซายน์ จึงแนะนำ "COVID-19 Solution" ( โควิด-19 โซลูชัน) นวัตกรรมทางการแพทย์ ประกอบด้วย 4 หมวด ได้แก่ 1. ชุดจัดเก็บสิ่งส่งตรวจ 2. ชุดตรวจหาเชื้อไวรัส 3. ชุดตรวจภูมิคุ้มกันแบบรวดเร็ว และ 4. ชุดควบคุมคุณภาพระหว่างทดสอบ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการเข้าช่วยสนับสนุนระบบการทำงานทางห้องปฏิบัติการของทีมแพทย์ให้ตรวจวินิจฉัยเชื้อไวรัสได้อย่างรวดเร็ว และช่วยให้ทีมแพทย์สามารถตรวจผู้ป่วยเชิงรุกรับมือกับการแพร่ระบาดทั้งรูปแบบในวงจำกัด เช่น คลัสเตอร์โควิดโรงงาน เรือนจำ หรือการแพร่ระบาดในวงกว้าง ตามพื้นที่สีแดง จึงนับว่าเครื่องมือชุดนี้มีความสำคัญต่อวงการแพทย์ในช่วงโควิด-19 ในด้านประสิทธิผลที่ให้ความรวดเร็วและความแม่นยำในการตรวจคัดกรองโรค

ด้าน นายดนัย ประพันธ์สันติ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท คิว ไบโอซายน์ จำกัด กล่าวว่า ความสำคัญของ COVID-19 Solution คือการแยกคนป่วย ออกจากคนปกติเพื่อลดการแพร่ระบาด เพราะปัจจัยของการแพร่ระบาด คือการที่เราไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อโรคโควิด-19 หรือไม่ โดยปัจจัยที่เกี่ยวข้องคือ นโยบาย งบประมาณและระยะเวลาที่สามารถรอผลการทดสอบได้ ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีชุดตรวจแอนติเจนของไวรัสแบบรวดเร็วที่ได้นำไปใช้ที่สนามบินบุรีรัมย์ และบางจังหวัดเช่น ภูเก็ต อุดรธานี สกลนคร ได้มีการนำไปใช้เพื่อคัดกรองคนเข้าจังหวัด หรือใช้ก่อนเข้าสถานพินิจ แม้ว่าไม่ใช่วิธีมาตรฐานขนาด RT-PCR แต่เหมาะสมกับทุกปัจจัย หรือบางจังหวัดเช่นสกลนครมีการนำไปใช้คัดกรองนักโทษก่อนเข้าเรือนจำโดยวิธีมาตรฐาน RT-PCR เพื่อป้องกันการระบาดในวงกว้าง หากเป็นการคัดกรองด้วยวิธี RT-PCR ก่อนเข้าประเทศที่สนามบิน บริษัทฯ ก็มีเครื่องมือทันสมัยอย่าง Alinity m ซึ่งสามารถออกผลหลังจากส่งตัวอย่างเข้าเครื่องในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง ซึ่งโมเดลนี้ได้มีการใช้งานที่ประเทศฮ่องกงแล้ว ปัจจุบันค่าเฉลี่ยการตรวจคัดกรองในช่วง 30 วันที่ผ่านมาทั่วประเทศ คือ 60,000 เทสต์ต่อวัน โดยมี Positive rate เฉลี่ย 5% เราจึงเห็นตัวเลข positive ที่ประมาณ 3,000 คนต่อวัน และการแพร่ระบาดก็มีมากกว่า 80 คลัสเตอร์ทั่วประเทศ จะเห็นได้ว่าห้องปฏิบัติการมีบทบาทอย่างมากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และ คิว ไบโอซายน์ ก็มีสินค้าตอบโจทย์ในทุกกระบวนการ

นายดนัย กล่าวต่อว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจหลักในส่วนงาน Abbott Molecular ของโรคไวรัสอื่นๆ อยู่แล้ว เช่น ไวรัสเอชไอวี ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี เมื่อมีการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 เข้ามา การดำเนินงานจึงเป็นการขยายการทดสอบบนเครื่องมือที่มีอยู่เดิมและเป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้ในปัจจุบัน โดยนวัตกรรมทางการแพทย์ชุด COVID-19 Solution (โควิด-19 โซลูชัน) บางส่วนของ คิว ไบโอซายน์ ได้เริ่มเข้าไปช่วยพัฒนาห้องปฏิบัติทางการแพทย์แล้วในช่วงโควิดระลอก 2 เป็นต้นมา โดยต้นเดือนกรกฏาคม 2564 นวัตกรรมทั้งหมดจะเข้าช่วยสนับสนุนระบบการทำงานของทีมแพทย์ครบสมบูรณ์ ซึ่งมีการแบ่งหมวดตามรูปแบบการทำงาน เริ่มต้นที่ 1. ชุดจัดเก็บสิ่งส่งตรวจ (Collection Kit) ประกอบด้วย 1.1 ชุด Swab สำหรับเก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจ หาเชื้อ SARS-CoV-2 บริเวณโพรงจมูกและลำคอ โดยก้านไม้ Swab ระบุจุด breakpoint เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เก็บสิ่งส่งตรวจใช้และสังเกต ป้องกันอันตรายกับคนไข้ และสามารถหักได้รองรับเมื่อปิดฝาและนำส่งตัวอย่างไปตรวจต่อไป 1.2 VTM (Viral Transport Media) สำหรับบรรจุสิ่งส่งตรวจแล้วเพื่อนำไปวิเคราะห์ผลต่อ โดยประโยชน์ของ VTM คือสามารถรักษาสภาพสารพันธุกรรม DNA หรือ RNA ของเชื้อไวรัสได้ไม่น้อยกว่า 1 เดือน จัดเก็บได้ที่อุณหภูมิ 4-35 องศาเซลเซียสเหมาะกับอากาศในประเทศไทย และมี anionic surfactants ทำให้เชื้อไวรัสหมดความสามารถในการติดเชื้อ ปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงานอีกด้วย

ถัดมา 2. การตรวจหาเชื้อไวรัส ประกอบด้วย 2.1 การตรวจสารพันธุกรรมของไวรัส ด้วยเครื่อง "Alinity m" ด้วยวิธี Real-time PCR ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐานในการตรวจยืนยันการติดเชื้อไวรัส มีคุณสมบัติโดดเด่นหลายด้าน อาทิ รองรับขนาดหลอดทดสอบที่ใส่สิ่งส่งตรวจได้หลายขนาด นำเข้าเครื่องได้ทันที ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานได้รับความปลอดภัยจากการถ่ายโอนสิ่งส่งตรวจ พร้อมวิเคราะห์ รายงานผลการทดสอบได้ในจำนวนมาก คือ 300 ตัวอย่างต่อ 8 ชั่วโมง และมากกว่า 1,000 ตัวอย่างต่อ 24 ชั่วโมง และออกผลได้อย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง รวมทั้งน้ำยาตรวจวิเคราะห์ใช้ตำแหน่งยีนยืนยันของเชื้อ SARS-CoV-2 (Confirmatory gene) ตามองค์การอนามัยโลกกำหนด 2.2 การตรวจหาแอนติเจนของเชื้อไวรัส เป็นชุดตรวจเพื่อช่วยในการวินิจฉัยตัวอย่างจำนวนมากได้แบบรวดเร็ว ใช้เวลาทดสอบประมาณ 15 นาที และปรับใช้ในการตรวจวิเคราะห์ได้หลายรูปแบบ ช่วยให้ตรวจผู้ป่วยเชิงรุกได้ในวงกว้าง เหมาะสำหรับการตรวจแบบไดร์ฟทรู การตรวจเยี่ยมที่บ้าน การตรวจ ณ จุดดูแลผู้ป่วย และสุดท้าย 3. การตรวจภูมิคุ้มกันด้วยชุดทดสอบรวดเร็ว ใช้เพื่อตรวจยืนยันว่าเคยมีการติดเชื้อไวรัสเกิดขึ้น ใช้เวลาทดสอบ 10-20 นาที สามารถใช้ในการศึกษาระบาดวิทยาของการติดเชื้อ ใช้ยืนยันการตรวจการติดเชื้อในกรณีคนไข้มีอาการแต่ผล RT-PCR เป็นลบหรือใช้ควบคุมการระบาดร่วมกับ RT-PCR หรือแอนติเจนตามนโยบาย Bubble and Seal และ 4. สารควบคุมคุณภาพการตรวจวิเคราะห์เชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งได้ตามมาตรฐาน ISO 15189:2012 ที่กำหนด โดยสามารถใช้ได้กับเครื่องมือทุกแพลตฟอร์มที่ห้องปฏิบัติการใช้ตรวจวิเคราะห์เชื้อไวรัส นายดนัย กล่าวทิ้งท้าย

อย่างไรก็ตาม แนวทางการตรวจวินิจฉัยโควิด-19 ทางห้องปฏิบัติการในประเทศไทยให้สอดรับกับสถานการณ์ที่ปรับเปลี่ยนไปนั้น ทีมบุคลากรทางการแพทย์จะมีการเลือกใช้ชุดทดสอบที่เหมาะสม โดยพิจารณาและประเมินจากพื้นที่ระบาด หรือประวัติความเสี่ยงของแต่ละบุคคล หรือการสัมผัสผู้ป่วย ร่วมกับอาการแสดงที่อาจมีมากหรือน้อย ไปจนถึงไม่มีอาการ ดังนี้

  • ผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยที่มี "ความเสี่ยงสูง" แนะนำให้รับการตรวจสารพันธุกรรมของไวรัสโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ในสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจ ในช่วงที่สงสัยว่าสัมผัสเชื้อมาแล้ว 3-5 วัน รวมถึงกักตัว 14 วัน
  • ผู้มีความเสี่ยงสูงแต่ได้รับการตรวจคัดกรองโดยชุดทดสอบแอนติเจนแบบรวดเร็วก่อนแล้วผลเป็นลบ จะต้องทำการยืนยันด้วยวิธีมาตรฐาน RT-PCR
  • คนไข้จำเป็นต้องผ่าตัดด่วน ซึ่งต้องการทราบผลการตรวจที่รวดเร็ว สามารถใช้ชุดตรวจแอนติเจนแบบรวดเร็วก่อนที่จะได้รับผล RT-PCR กรณีนี้แม้ได้ผลเป็นลบ ทีมแพทย์ยังคงต้องจัดการด้วยความระมัดระวังสูงสุด
  • การระบาดในวงจำกัด (Bubble and Seal) เช่น โรงงาน เรือนจำ ตรวจด้วยวิธีมาตรฐาน RT-PCR
  • การระบาดในวงกว้าง มีผู้เสี่ยงติดเชื้อจำนวนมาก หรือพื้นที่สีแดง สามารถตรวจโดยใช้ชุดทดสอบแอนติเจนแบบรวดเร็ว หากผลเป็นลบ ให้ทำตามนโยบายของพื้นที่หรือจัดการตามความเสี่ยงของบุคคลตามข้อมูลเบื้องต้น หากผลเป็นบวกให้ทำการยืนยันด้วยวิธีมาตราฐาน RT-PCR หากต้องการใช้น้ำลาย อาจใช้การตรวจน้ำลายแบบรายบุคคล หรือจัดการคัดกรองด้วยเทคนิคอื่น โดยผลบวกควรยืนยันด้วยวิธี RT-PCR และเฝ้าระวังผู้ได้ผลลบ

สามารถติดต่อข้อมูลหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ https://qbiosci.com/ เพจเฟซบุ๊ก
Q Bioscience Co.,Ltd (https://www.facebook.com/qbioscience) หรือโทร. 02 580 8768

ที่มา: เจซีแอนด์โค คอมมิวนิเคชั่นส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO