นายชนินทร์ เย็นสุดใจ ประธานกรรมการ บริษัท เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SWC ผู้ดำเนินธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า แผนยุทธศาสตร์ SWC ต่อจากนี้จะมุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้ กลยุทธ์ Diversification เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้ 3 แกนหลัก 'Safety - Wellness - Care' ที่เน้นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภค โดยมุ่งสร้างความหลากหลายผ่านการขยายกลุ่มธุรกิจ และแบรนด์พอร์ตโฟลิโอ รองรับการขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน
ทั้งนี้ SWC ได้ขยายธุรกิจครั้งใหญ่ด้วยแนวคิด 'SWC Change to Win' โดยปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์ พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา ด้วยวิสัยทัศน์ 'สู่การเป็นองค์กรชั้นนำ ที่ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าคุณภาพสูง เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคในระดับสากล' โดยชู 4 ยุทธศาสตร์สร้างความแข็งแกร่ง ได้แก่ 1.ช่องทางการขาย (Distribution Channel) ที่ครอบคลุมทุกช่องทางทั่วประเทศ 2.การมีตราสินค้าที่แข็งแกร่ง (Brand) 3.การพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพ (People) และ 4.ระบบในการขายที่นำเทคโนโลยีมาใช้ (System) ผ่านโครงสร้างธุรกิจที่แบ่งเป็น 2 กลุ่มได้แก่ 1.ธุรกิจ Non-Food กลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ในครัวเรือนและเคมีภัณฑ์ในอุตสาหกรรม และ2.กลุ่มธุรกิจ Food ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม เพื่อผลักดันให้ธุรกิจใหม่ประสบความสำเร็จ
นายธนากร วัฒนวิจารณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SWC กล่าวว่า การขยายเข้าสู่กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของกลุ่ม SWC ซึ่งถือเป็น New S Curve เพื่อสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยนำจุดแข็งของบริษัทฯ มาต่อยอดสู่ธุรกิจ Food ประกาศปั้น แบรนด์ใหม่ เครื่องดื่มสมุนไพร ซุปเปอร์ไฟต์ (SuperFight) รับเทรนด์ผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพ เพื่อก้าวเป็นผู้นำตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทยและขยายตลาดสู่ภูมิภาคอาเซียน โดยรายได้ของกลุ่มธุรกิจ Food มีสัดส่วน 15% ของรายได้รวมปีนี้ที่ตั้งเป้าหมาย 2,500 ล้านบาท
สำหรับ กลุ่มธุรกิจ Non-Food ที่มีผลิตภัณฑ์ป้องกันและจำกัดปลวกและแมลงรบกวนแบรนด์ 'เชนไดร้ท์' และผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานแบรนด์ 'ทีโพล์' จะดำเนินการ Re-Branding ปรับโฉมภาพลักษณ์สินค้าให้ทันสมัย ผ่านการใช้พรีเซ็นเตอร์เพื่อสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าภายใต้กลยุทธ์ O2O ผสมผสานช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุม และการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน พร้อมต่อยอดความแข็งแกร่งแบรนด์'ทีโพล์'ที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภครายย่อย (B2C) ไปสู่การขยายฐานลูกค้ากลุ่มองค์กร (B2B)
นายสมศักดิ์ จันทร์ส่อง รองกรรมการผู้จัดการ-สายงานพาณิชย์ SWC กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจ Food ดำเนินงานภายใต้บริษัท ฮอกไกโด ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด ได้ให้ความสำคัญกับกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ 'ซุปเปอร์ไฟต์ (SuperFight)' โดยถือเป็นสินค้าไฮไลต์ให้แก่ธุรกิจในกลุ่ม Food หลังจากได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยวางตำแหน่งทางการตลาดเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรสกัด 8 ชนิด ที่มีน้ำตาลน้อย และเกลือ (โซเดียม) ในปริมาณต่ำ มีคาเฟอีนจากชาเขียวธรรมชาติมอบพลังงานและความสดชื่นตลอดวัน และเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรรายแรก ที่ได้รับเครื่องหมายสัญลักษณ์โภชนาการ 'ทางเลือกสุขภาพ' (Healthier Choice) มีคุณค่าทางโภชนาการเหมาะสม เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภค ที่เลือกซื้อเพื่อเพิ่มความสดชื่น พร้อมบำรุงสุขภาพด้วยสารสกัดจากสมุนไพร
ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีแผนขยายช่องทางจำหน่าย โดยเริ่มจากร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่นทั่วประเทศในเดือนมิถุนายนนี้ และจะขยายให้ครอบคลุมในทุกช่องทาง พร้อมเปิดตัว 'โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์' เป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์ เนื่องจากมีภาพลักษณ์และไลฟ์สไตล์ที่ดูแลสุขภาพ เหมาะสมกับแบรนด์ โดยได้เตรียมแผนการตลาดเต็มรูปแบบ ด้วยสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ สื่อออนไลน์ ป้ายโฆษณา Out of Home สื่อ ณ จุดขาย และ สร้างทีมแอคทีฟไฟต์ บายซุปเปอร์ไฟต์ ออกนำผลิตภัณฑ์ให้ผู้บริโภคได้ชิมรสชาติ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างฐานลูกค้า นอกจากนี้ จะขยายไปยังตลาดต่างประเทศ ได้แก่ กลุ่มประเทศใน CLMV ตะวันออกกลาง จีน ยุโรปและอเมริกา โดยวางเป้าหมายนำแบรนด์ SuperFight ก้าวสู่โกลบอลแบรนด์ในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เตรียมการออกผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชา โดยมีเป้าหมายการจัดจำหน่ายทั้งในประเทศ และการเข้าสู่ตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดื่ม SuperFight ที่มีส่วนผสมของกัญชา (CBD) ผลิตภัณฑ์ถั่ว แบรนด์มารูโจ้ และผลิตภัณฑ์นมและไอศกรีมแบรนด์ฮอกไกโด ก็มีแผนการออกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเทอร์ปีน มีกลิ่นและรสสัมผัสที่มอบความสุข ความสนุกในการบริโภค บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ในกลุ่มผสมกัญชามีความต้องการสูงมาก ไม่เพียงตลาดในประเทศ แต่ยังเตรียมบุกตลาดโลก เพราะผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคอยู่แล้ว เชื่อว่าตลาดนี้มีศักยภาพ ในการสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ
ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย