นายวรพจน์ ธาราศิริสกุล, CTO, J Ventures ตัวแทนจาก JNFT กล่าวว่า "JNFT คือแพลตฟอร์มที่นำนักสร้างสรรค์และนักสะสมมาพบกันในรูปแบบ Marketplace ในยุคดิจิทัลดิสรัปชันที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกส่วนของชีวิตประจำวัน รวมถึงงานศิลปะ เราจึงต้องการสนับสนุนให้นักสร้างสรรค์ชาวไทยมีโอกาสผลิตผลงานในรูปแบบดิจิทัลได้ง่ายขึ้น รวมถึงนำนักสะสมทั้งไทยและต่างชาติได้เข้าถึงผลงานศิลปะเหล่านั้นอย่างกว้างขวาง"
JNFT Marketplace สามารถซื้อ ขาย ประมูล ผลงานศิลปะที่เป็นดิจิทัล บนระบบบล็อกเชนแบบไร้ศูนย์ (Decentralized) ผ่านการยืนยันสิทธิ์แทนการเป็นเจ้าของด้วยเหรียญที่ไม่สามารถแทนค่าหรือทำซ้ำได้ (Non-Fungible Token) รองรับงานศิลปะที่เป็นไฟล์ดิจิทัล ได้แก่ รูปภาพความละเอียดสูงที่เป็นฟอร์แมต JPG หรือ PNG รูปภาพเคลื่อนไหวในฟอร์แมต GIF หรือ MP4 (h.264)
JNFT Marketplace เปิดให้ Creators หรือ ผู้สนใจนำเสนอขายงานศิลปะ สมัครเข้าใช้งานแพลตฟอร์ม JNFT ได้ด้วยตนเอง เพียงมีกระเป๋าเงินในระบบบล็อกเชน (Metamask) และเชื่อมต่อเข้าระบบ และยืนยันตัว ซึ่งทำได้ภายในไม่กี่ขั้นตอน ก็สามารถสร้างเหรียญ NFT เพื่อตั้งขาย หรือเปิดประมูล และส่งมอบสิทธิ์ให้กับผู้ซื้อได้
ในส่วนของ Collectors หรือ ผู้สนใจซื้อ หรือประมูลงานศิลปะ สามารถเข้าใช้งาน JNFT ได้โดยใช้เพียงแค่กระเป๋าเงินในระบบ บล็อกเชน โดยไม่ต้องมีการสมัครสมาชิกหรือยืนยันตัวตน ทำให้สะดวก ปลอดภัย มีความเป็นส่วนตัวสูงระบบ JNFT มอบทางเลือกในการแสดงความเป็นเจ้าของผู้ซื้อผลงานในหลายรูปแบบ ทั้งแบบเปิดเผยหรือปกปิดตัวตน โดยแสดงเพียงบางส่วนของเลขกระเป๋าเงิน เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของของผลงานนั้นๆ ได้
"JNFT มุ่งเน้นที่จะสร้างพื้นที่ให้กับศิลปะหลากหลายรูปแบบ และสนับสนุนศิลปินที่มีผลงานน่าสนใจ รวมถึงเปิดโอกาสให้ศิลปินใหม่ๆ รวมถึงกลุ่มคน หรือหน่วยงาน ได้มีพื้นที่แสดงผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้น และถูกค้นหาโดยง่าย ด้วยระบบคัดกรองศิลปิน และความเหมาะสมของชิ้นงาน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมั่นใจที่จะเข้ามาเลือกชม และเสนอซื้อขายงานศิลปะที่ต้องการได้ทุกเวลา" นายวรพจน์กล่าวเสริม
ผู้ที่สนใจ JNFT Marketplace สามารถเข้าไปใช้งานได้ที่ https://jnft.digital หรือติดตามอัปเดตเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: JNFT - where creators meet collectors
ที่มา: ไออาร์ พลัส