นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด (KTZ) กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 3/2021 น่าจะปรับตัวลดลง สาเหตุหลักจากนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันในประเทศมีแนวโน้มที่จะลดน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยในระยะสั้นเพิ่มขึ้น เนื่องจาก 1.การวิตกว่าตลาดหุ้นไทยอาจปรับร่วงแรงเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีตช่วงกลางปี 2013 หลังจากประธานเฟด เบอร์นาเก้ ส่งสัญญาณครั้งแรกว่าเฟดจะมีการทำ QE Tapering โดยการประกาศครั้งนั้นส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นอาเซียนร่วงลงกว่า -20% ใน 6 เดือน และค่าเงินบาทอ่อนค่าเทียบ USD กว่า 10% 2. การควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยอาจล่าช้ากว่าคาดการณ์ และเพิ่มความเสี่ยงของการปรับลดประมาณการเติบโตเศรษฐกิจไทยปีนี้ลงจากเดิมเฉลี่ย 1.8-2.3% เนื่องจากการเกิดไวรัสกลายพันธุ์เดลต้า และปัญหาการขาดแคลนวัคซีนฯ 3.คาดประเทศไทยจะรายงาน 2Q2021E GDP ที่เติบโตลดลง -0.5%q-q (Vs 1Q21 +0.2%q-q) ซึ่งสวนทางและแย่กว่ามากเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วที่ส่วนใหญ่รายงานเติบโตสูงแบบก้าวกระโดด
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกที่ช่วยทำให้ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัว คือ ข่าวการทยอยเปิดเศรษฐกิจและเตรียมทยอยเปิดประเทศ ของกลุ่มประเทศในทวีปอเมริกาเหนือและทวีปยุโรป หลังสามารถฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 50% ของประชากร ช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และ แผนการเร่งฉีดวัคซีน (Spark Vaccination) ให้ครบ 63 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้ จะส่งผลให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปี 22E พลิกกลับมาเติบโตได้ 4.3% (Vs 1.6% ในปีนี้)
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนใน 3Q21 จึงแนะนำ Portfolio Investment โดยเน้น
- หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก (Cyclical Play) ได้แก่ กลุ่มส่งออก TU CPF KCE HANA AH SAT และกลุ่มอิงสินค้าโภคภัณฑ์ PTTEP PSL TTA RCL JWD WICE
- หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเร่งทยอยฉีดวัคซีนในประเทศ (Re-Open Theme) ทำให้รัฐบาลสามารถผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวได้เร็วขึ้น ได้แก่ BEM MINT CENTEL CRC CPN AMATA BCH CHG
- หุ้นผลิตภัณฑ์เชื่อมโยงกับกัญชง-กัญชา (พืชเศรษฐกิจในอนาคต) ได้แก่ GUNKUL NRF DOD RBF ICHI RS JKN รับผลบวกจาก อย.จะเร่งอนุมัติให้ใบอนุญาตทำธุรกิจเพิ่มเติม
ที่มา: กรุงไทย ซีมิโก้