โคเวสโตร วางรากฐานเพื่อผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านโครงสร้างกลุ่มบริษัทรูปแบบใหม่ เริ่ม 1 กรกฎาคม 2564

ศุกร์ ๐๒ กรกฎาคม ๒๐๒๑ ๑๓:๑๐
-      หลักการชี้นำ: เพื่อเข้าสู่การหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบ

-      ความสำเร็จอีกขั้นในการดำเนินการกลยุทธ์ใหม่

-      ปรับเปลี่ยนโครงสร้างโดยแบ่งธุรกิจออกเป็น 7 กลุ่ม

- ลูกค้าคือศูนย์กลาง ความยั่งยืนคือหัวใจ

โคเวสโตร เดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กร ซึ่งมีผลในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นี้ โดยได้ทำการปรับโครงสร้าง แบ่งสามกลุ่มธุรกิจเดิมอันได้แก่ กลุ่มโพลียูรีเทน กลุ่มโพลีคาร์บอเนต และกลุ่มผลิตภัณฑ์สารเคลือบ สารยึดเกาะ และผลิตภัณฑ์เฉพาะด้านออกเป็น 7 หน่วยธุรกิจใหม่ที่ตรงใจผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม จึงนับได้ว่า บริษัทสามารถบรรลุความสำเร็จแรกในการดำเนินกลยุทธ์ใหม่เพื่อ "อนาคตที่ยั่งยืน" ตามที่ได้มีการวางเป้าหมายไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งวิสัยทัศน์ของ โคเวสโตร ในการมุ่งมั่นสู่การหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบนั้นถือเป็นหลักการชี้นำของกลยุทธ์ในครั้งนี้

"เราจริงจังในเรื่องของความยั่งยืนเป็นอย่างยิ่ง และในขณะนี้เรากำลังมุ่งสู่เป้าหมายเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่กำหนดจุดยืนของ โคเวสโตร ในอนาคตได้อย่างสมบูรณ์แบบ" ดร. มาร์คุส สไตเลอแมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าว "โครงสร้างที่เราปรับใหม่ในครั้งนี้จะเป็นรากฐานเพื่อการดำเนินการตามกลยุทธ์ของเราต่อไปในภายภาคหน้าและพุ่งตรงสู่เป้าหมายเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน เราจะเป็นพันธมิตรให้กับลูกค้าของเราในรูปแบบที่ดียิ่งขึ้นกว่าที่เคย ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับเราต่อไป"

ให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าและตลาดเพื่อให้คงความสอดคล้องกับกลยุทธ์ส่วนที่หนึ่ง นั่นก็คือการ "เป็นตัวเราในแบบที่ดีที่สุด" ตอนนี้ทางกลุ่มบริษัทได้วางธุรกิจทั้งหมดให้มีความใกล้เคียงกับการความต้องการของแต่ละตลาด และทำให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ในโครงสร้างใหม่นี้ โคเวสโตร ได้จัดระเบียบหน่วยงานธุรกิจทั้งเจ็ดกลุ่ม โดยพิจารณาจากปัจจัยความสำเร็จของแต่ละกลุ่มธุรกิจอย่างแม่นยำ และบูรณาการการดำเนินงานทั้งหมดที่อยู่ในห่วงโซ่คุณค่าซึ่งมีความสำคัญต่อความสำเร็จ เข้ากับกลุ่มธุรกิจใหม่เหล่านี้

ตอนนี้ทางกลุ่มบริษัทได้แยกออกเป็นสองกลุ่ม คือ "กลุ่มโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์เฉพาะด้าน" และ "กลุ่มวัสดุประสิทธิภาพสูง"

- กลุ่มโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์เฉพาะด้าน ประกอบไปด้วย 6 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มยูรีเทนออกแบบเฉพาะ กลุ่มเทอร์โมพลาสติกโพลียูรีเทน กลุ่มสารเคลือบและสารยึดเกาะ กลุ่มอีลาสโตเมอร์ กลุ่มพลาสติกเชิงวิศวกรรม และกลุ่มวัสดุฟิล์มชนิดพิเศษ ความโดดเด่นคือการเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อนและใช้นวัตกรรมขั้นสูง ซึ่งโคเวสโตรได้ผสมผสานเข้ากับการให้บริการเทคโนโลยีแอปพลิเคชัน

- กลุ่มวัสดุประสิทธิภาพสูง ธุรกิจนี้จะแยกกลุ่มออกมา ประกอบไปด้วยกลุ่มธุรกิจที่มีโพลีคาร์บอเนตมาตรฐาน ส่วนประกอบยูรีเทนมาตรฐาน และสารเคมีพื้นฐาน ส่วนสำคัญคือการให้บริการผลิตภัณฑ์มาตรฐานที่มีความน่าเชื่อถือ ในราคาสมเหตุสมผล

โคเวสโตร จะรายงานเกี่ยวกับธุรกิจทั้งสองกลุ่มใหม่ อันได้แก่ "กลุ่มโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์เฉพาะด้าน" และ "กลุ่มวัสดุประสิทธิภาพสูง" ครั้งแรกในไตรมาสที่สามของปี 2564  มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนในส่วนที่สองของกลยุทธ์ "การขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน" โคเวสโตร ได้ผสมผสานความสอดคล้องของผลิตภัณฑ์และกระบวนการต่าง ๆ เข้ากับความต้องการของลูกค้า ด้วยการมุ่งเน้นที่จะแก้ไขปัญหาความยั่งยืนให้ได้มากยิ่งขึ้น โดยที่ยังสามารถทำกำไรให้แก่ธุรกิจ "เราต้องการที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน นั่นหมายความว่า เราเองก็จะปรับการลงทุนและการเข้าซื้อกิจการของเราให้สอดรับกับทั้งแง่ของการทำกำไรและความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง" ดร. โทมัส เทอฟเฟอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินกล่าว "ด้วยการจัดสรรทรัพยากรอย่างเหมาะสม ตอนนี้โครงสร้างองค์กรใหม่ของเรายังเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราสามารถยกระดับสินค้าและบริการได้อย่างเป็นไปตามกลุ่มเป้าหมาย ผ่านการลงทุนในกลุ่มตลาดที่ดึงดูดและมีความยั่งยืน การเติบโตทุกย่างก้าวของกลุ่มบริษัทของเราจึงเป็นไปในทิศทางที่มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น"

สำหรับวิสัยทัศน์ระยะยาวของ โคเวสโตร นั้นจะอยู่ในกลยุทธ์ส่วนที่สาม ส่วนหนึ่งที่จะทำให้บริษัทเข้าสู่ "การหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบ" ได้นั้น คือการเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจที่เป็นกลางในแง่ของสภาพอากาศและมีความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์ทรัพยากร   เกี่ยวกับ โคเวสโตร:โคเวสโตรเป็นผู้ผลิตวัสดุโพลิเมอร์ชั้นนำระดับโลก มียอดขายในปี 2563 ถึง 10.7 พันล้านยูโร ธุรกิจของโคเวสโตรให้ความสำคัญกับการผลิตวัสดุโพลิเมอร์ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงและการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน สำหรับการดำเนินงานดังกล่าว โคเวสโตรมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ต่อหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน อุตสาหกรรมหลักที่ใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของโคเวสโตรคืออุตสาหกรรมยานยนต์ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ รวมไปถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ในครัวเรือน นอกจากนี้ ยังมีอุตสาหกรรมด้านกีฬาและสันทนาการ  เครื่องสำอาง สุขภาพ รวมถึงอุตสาหกรรมเคมีด้วยเช่นกัน โดยโคเวสโตรมีศูนย์การผลิตอยู่ 33 แห่งทั่วโลก และมีพนักงานประจำและเทียบเท่า ประมาณ 16,500 คน (คำนวณจากค่าเทียบเท่าพนักงานเต็มเวลา)

ที่มา: มิดัส คอมมิวนิเคชั่น อินเตอร์เนชั่นเนล

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ ดร.เอ้ สุดยอดผู้นำด้าน AI เชื่อมั่น รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร จะปฏิวัติการแพทย์ไทย ด้วย AI พร้อมความตั้งใจอันแน่วแน่
๐๙:๐๓ รมว.นฤมล ผลักดันกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
๐๙:๑๖ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนร่วมบริจาคโลหิต 26 ธันวาคมนี้ ชั้น 7 โซน A เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต
๐๙:๔๗ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเต็ม!! ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน
๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย