ในฐานะหนึ่งในผู้บุกเบิกด้าน ICT ของประเทศไทย สามารถเทลคอมได้ช่วยเสริมศักยภาพการปฏิบัติงานให้กับหน่วยงานของรัฐหลากหลายแห่ง ผ่านผลิตภัณฑ์ด้านโทรคมนาคมที่มีนวัตกรรมและเชื่อถือได้จากผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านโทรคมนาคม ชั้นนำระดับโลก เพื่อมุ่งหวังตอบโจทย์ความคาดหวังที่สูงของลูกค้าและสร้างความร่วมมือแบบต่างได้ประโยชน์ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อประชาชนไทยทั้งประเทศ โดยมองว่าความสำเร็จในการประมูลโครงการใหญ่ นั้น ไม่เคยเป็นเพราะโชคช่วย แต่มาจากความทุ่มเท การทำงานหนัก และวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน
ด้วยการดำเนินธุรกิจอย่างยาวนานเกือบสี่ทศวรรษ สามารถเทลคอมยังคงมุ่งพัฒนาและแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ อยู่เสมอ โดยใช้ประโยชน์จากประสบการณ์และข้อมูลที่มีอยู่อย่างกว้างขวางและครอบคลุมตลาดที่มีการแข่งขันสูงอย่างประเทศไทย นอกจากนี้ สามารถเทลคอมยังมุ่งสานต่อการเติบโตของบริษัทในอุตสาหกรรมดิจิทัลที่ยังคงขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว จึงเล็งเห็นความสำคัญของการมีพันธมิตรที่น่าเชื่อถือ รวมทั้งมีเป้าหมายและความมุ่งมั่นในด้านการพัฒนาและให้ความสำคัญกับความเป็นเลิศไปในทิศทางเดียวกัน
ความร่วมมือที่ใช่ก่อให้เกิดโอกาสธุรกิจใหม่ ๆ
ความร่วมมือระหว่างสามารถเทลคอม และหัวเว่ย เอ็นเตอร์ไพรส์ เริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2561 โดยขณะนั้น สามารถเทลคอมกำลังมองหาหุ้นส่วนกลยุทธ์ระยะยาวที่ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมตำแหน่งความเป็นผู้นำของบริษัท แต่ยังช่วยให้เกิดการขยายธุรกิจได้อีกด้วย โดยสามารถเทลคอมมองว่าหัวเว่ยเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด เพราะเป็นผู้จัดหาโซลูชันได้อย่างครอบคลุมครบวงจร ทั้งยังสามารถปรับการให้บริการและผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจผ่านนวัตกรรมที่หลากหลายและยืดหยุ่นอีกด้วย
เพื่อรักษาความสามารถทางการแข่งขันในยุคที่เทคโนโลยีเดินหน้าพัฒนาอยู่เสมอ ทางกลุ่มสามารถเข้าใจดีถึงความสำคัญของการขยายผลิตภัณฑ์และบริการไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเงินการธนาคาร การขนส่ง รวมถึงระบบสาธารณูปโภคอื่น ๆ และด้วยการสนับสนุนจากโซลูชันด้าน ICT ชั้นนำจากหัวเว่ย สามารถจึงพร้อมขยายขอบเขตความสามารถทางดิจิทัลที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีขั้นสูง อันได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมไปถึง Machine Learning และคลาวด์
ร่วมผนึกกำลังเพื่อเดินหน้าไปด้วยกัน
สามารถเทลคอมเป็นพันธมิตรระดับ Gold ของหัวเว่ยในช่วงปี พ.ศ. 2561 และจากความต้องการเพิ่มความสามารถด้านการให้บริการและใช้ประโยชน์จากโซลูชันชั้นนำระดับโลกจากหัวเว่ยอย่างเต็มศักยภาพ สามารถจึงสนับสนุนให้ทีมวิศวกรเข้าร่วมการอบรมและสอบใบรับรองในหลากหลายหลักสูตรด้าน ICT จากหัวเว่ย หลังจากนั้น ภายในหนึ่งปี สามารถจึงเลื่อนขั้นเป็นพันธมิตรระดับ Value-Added Partner (VAP) ซึ่งจัดเป็นพันธมิตรระดับสูงสุดของหัวเว่ย และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้งสององค์กรในการร่วมกันนำการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีไปสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ ๆ และเพื่อช่วยให้พันธมิตรหรือคู่ค้าของตนประสบความสำเร็จในยุคแห่งความอัจฉริยะทางเทคโนโลยีนี้ นอกจากนี้ สามารถยังได้รับการจัดให้เป็นพันธมิตรผู้ให้บริการ หรือ Certified Service Partner ระดับสี่ดาว ในหมวดการสื่อสารข้อมูล (Datacom) การจัดเก็บข้อมูล (Storage) และ การรับส่งข้อมูล (Transmission) โดยในปัจจุบัน มีทีมวิศวกร 72 ท่านจากสามารถ ที่ได้รับการรับรองในการให้บริการโซลูชันด้าน ICT ของหัวเว่ยได้
จากความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับหัวเว่ย สามารถได้เดินหน้าคว้าโครงการใหญ่ ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นดิจิทัลแบงค์กิ้ง ระบบความปลอดภัยสาธารณะ การโทรคมนาคม รวมไปถึงระบบสาธารณูปโภคอื่น ๆ และยังได้ใช้ความชำนาญที่มีในการช่วยให้หลากหลายองค์กรก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอีกด้วย พันธมิตรทั้งสองจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกระบวนการ เริ่มตั้งแต่การวางแผนกลยุทธ์ ไปจนถึงการออกแบบแผนการดำเนินงานแบบเฉพาะตัวให้กับลูกค้าเพื่อขับเคลื่อนความสำเร็จในระยะยาว และด้วยความเชื่อที่มีร่วมกันในเรื่องของการส่งมอบงานคุณภาพสูงสุด ทั้งสององค์กรจึงได้รับความสำเร็จร่วมกันมากมาย และยังคงเดินหน้าพัฒนาและส่งมอบนวัตกรรมโซลูชันใหม่ ๆ ที่จะสามารถสร้างบริการที่ดีกว่าให้กับสังคม
ความสำเร็จทางธุรกิจเป็นเพียงจุดเริ่มต้น
สามารถมีความพร้อมที่จะเติบโตและพัฒนาโซลูชันทางด้านดิจิทัลเพื่อมอบบริการที่เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้า ผ่านการใช้อุปกรณ์ ICT อันเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย โดยบริษัทยังคงยึดมั่นในพันธกิจที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน สนับสนุนช่วยเหลือให้องค์กรต่าง ๆ ส่งมอบบริการด้านดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพให้กับผู้คน และยังคาดว่าจะเพิ่มความแน่นแฟ้นใน ความร่วมมือกับหัวเว่ย เพื่อส่งมอบโครงสร้างพื้นฐานทางด้าน ICT ด้วยมาตรฐานระดับโลกให้กับสังคมต่อไป
ที่มา: คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์