กลุ่มทิสโก้เผยผลประกอบการไตรมาส 2/2564 กำไรสุทธิ 1,666 ล้านบาท ลดลง 5.5% จากไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุหลักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

พฤหัส ๑๕ กรกฎาคม ๒๐๒๑ ๐๙:๒๕
นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ (Mr. Sakchai Peechapat, Group Chief Executive) เปิดเผยว่า การดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้ในช่วงไตรมาส 2/2564 มีกำไรสุทธิ 1,666 ล้านบาท ลดลง 97 ล้านบาท หรือ 5.5% จากไตรมาส 1/2564 ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่งผลให้รายได้ค่าธรรมเนียมจากทุกธุรกิจหลักอ่อนตัวลง ทั้งค่าธรรมเนียมธุรกิจนายหน้าประกันภัย ค่าธรรมเนียมธุรกิจหลักทรัพย์ และค่าธรรมเนียมจัดการกองทุน อย่างไรก็ดี ค่าใช้จ่ายสำรองปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อน เนื่องจากบริษัทได้ตั้งสำรองในระดับสูงเพื่อรองรับความเสี่ยงล่วงหน้าไปแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวังมาโดยตลอด แม้อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL Ratio) ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2.7% แต่ถือเป็นไปตามกรอบที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 213.7%

"เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรกยังเปราะบางและคาดว่าจะขยายตัวในระดับต่ำ แม้จะมีแรงหนุนจากฐานที่ต่ำมากในช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ หากมองไปในระยะข้างหน้าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มอ่อนแอเพิ่มมากขึ้น จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังรุนแรงและมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก นำไปสู่การบังคับใช้มาตรการปิดเมือง (Lockdown) ในบางพื้นที่ ซึ่งจะกระทบต่อการใช้จ่ายของภาคเอกชนให้มีแนวโน้มชะลอตัวลงยิ่งกว่าเดิม และเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้" นายศักดิ์ชัย กล่าว

ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยืดเยื้อและรุนแรงมากกว่าที่คาดนี้ การให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างทันการณ์จึงเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีและกลุ่มรายย่อย โดยแนวทางที่ทิสโก้ให้ความช่วยเหลือจะอยู่ในรูปแบบของการปรับโครงสร้างหนี้ เช่น การปรับลดค่างวด การขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ การปรับวิธีผ่อนชำระแบบขั้นบันได เป็นต้น ในส่วนของลูกค้าธุรกิจยังให้ความช่วยเหลือผ่านมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) และสินเชื่อฟื้นฟูของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันอนุมัติวงเงินแล้วจำนวน 4,000 ล้านบาท ขณะที่ลูกค้ารายย่อย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเช่าซื้อและจำนำทะเบียนรถยนต์ หากทำการปรับโครงสร้างหนี้แล้วยังผ่อนชำระไม่ไหว สามารถนำรถมาคืนในโครงการพิเศษ "คืนรถจบหนี้" ได้ โดยลูกค้าต้องผ่อนชำระมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 งวด และหากอยู่ในเงื่อนไขที่กำหนด ทิสโก้จะยกหนี้ให้ทั้งหมด โดยไม่ดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม ไม่มีค่าธรรมเนียม และระบุสถานะเป็นปิดบัญชี ทำให้ลูกค้าจะไม่เสียประวัติเครดิตและไม่มีภาระหนี้ผูกพันในระยะยาว ซึ่งไม่เพียงแต่แก้ปัญหาให้ลูกค้าแบบเบ็ดเสร็จในภาวะวิกฤต ในอนาคตยังมีโอกาสกลับมาทำธุรกรรมขอสินเชื่อได้ใหม่ ซึ่งเอื้อให้เกิดผลดีต่อระบบโดยรวม ทั้งการลดจำนวนคดีที่จะเข้าสู่การพิจารณาของศาล การจบปัญหาหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยลูกค้าที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564

"นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ทิสโก้ให้ความช่วยเหลือและดูแลลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นการให้ความช่วยเหลือผ่านมาตรการต่างๆ ตามความเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละประเภท ทำให้มีลูกค้าจำนวนมากสามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติ แต่ด้วยสถานการณ์การระบาดระลอกใหม่ที่ยาวนานขึ้น ทิสโก้จึงขยายระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือต่อจนถึงสิ้นปี สอดคล้องไปกับแนวทางของธนาคารแห่งประเทศไทย ปัจจุบัน ทิสโก้ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ไปแล้วกว่า 150,000 ราย" นายศักดิ์ชัย กล่าว

สรุปผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 และรอบครึ่งปีแรก 2564
ผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้สำหรับไตรมาส 2 ปี 2564 เทียบกับไตรมาส 1 ปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 1,666 ล้านบาท ลดลง 5.5% จากไตรมาสก่อน สาเหตุหลักมาจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยที่อ่อนตัวลง 21.4% โดยรายได้ค่าธรรมเนียมชะลอตัวลงจากไตรมาสที่แล้ว ประกอบไปด้วยรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์ปรับลดลง โดยเฉพาะธุรกิจนายหน้าประกันภัย (Bancassurance) ตามสถานกาณ์เศรษฐกิจที่ซบเซาจากการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ในขณะเดียวกัน ธุรกิจตลาดทุนชะลอตัวลง ทั้งค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ จากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ลดลง และค่าธรรมเนียมจากธุรกิจจัดการกองทุน จากการออกกองทุนใหม่ที่น้อยลงเมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว ในขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 1.2% ตามการบริหารต้นทุนทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ ค่าใช้จ่ายสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss - ECL) อยู่ที่ 1.0% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย ลดลงจากไตรมาสที่แล้ว ซึ่งในไตรมาส 1 ปี 2564 บริษัทได้ตั้งสำรองเพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ล่วงหน้าไปแล้ว สอดคล้องกับนโยบายการตั้งสำรองอย่างระมัดระวัง

สำหรับผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกของปี 2564 กำไรสุทธิมีจำนวน 3,430 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากธุรกิจตลาดทุนที่ปรับตัวดีขึ้น และการรับรู้กำไรจากเงินลงทุน ในขณะที่รายได้หลักจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ยังคงอ่อนแอ ทั้งรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 5.0% จากการชะลอตัวของสินเชื่อ เนื่องจากวิกฤติโควิด-19 ที่ยังยืดเยื้อ ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเติบโต 32.3% หลักๆมาจากค่าธรรมเนียมธุรกิจหลักทรัพย์ ตามปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น ค่าธรรมเนียมธุรกิจจัดการกองทุน และการรับรู้กำไรจากเงินลงทุน สำหรับผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากการตั้งสำรองล่วงหน้าในช่วงต้นปี 2563 ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) อยู่ที่ 17.7%

สำหรับเงินให้สินเชื่อรวมของกลุ่มทิสโก้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 มีจำนวน 213,995 ล้านบาท ลดลง 4.8% จากสิ้นปีก่อนหน้า จากการชะลอตัวของทุกธุรกิจ ตามการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวังในภาวะความเสี่ยงที่สูงขึ้น และการชำระคืนหนี้ของสินเชื่อธุรกิจและเอสเอ็มอี ในส่วนของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.7% จากลูกหนี้ปรับโครงสร้างบางส่วนที่ไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้ แต่ยังคงอยู่ในกรอบที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงมีระดับเงินสำรองหนี้สูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) อยู่ในระดับสูงที่ 213.7%

ธนาคารทิสโก้ยังคงรักษาระดับฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง โดยมีประมาณการอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ 24.1% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 11.0% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย และมีอัตราเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 19.3% และ 4.8% ตามลำดับ

ที่มา: ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO