- การวางระบบอาคารดิจิทัลให้สำนักงานของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดทั่วเอเชียแปซิฟิก
- จอห์นสัน คอนโทรลส์ ร่วมมือกับซีบีอาร์อี (CBRE)และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด เพื่อติดตั้งระบบ OpenBlue Enterprise Management (OBEM)ซึ่งเป็นโซลูชันบนคลาวด์ที่ระบุและแก้ไขความไร้ประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการใช้พลังงานในสำนักงานของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ฮ่องกง ซึ่งโครงการนำร่องที่ประสบความสำเร็จนี้ช่วยประหยัดพลังงานได้ 7%ต่อปี และได้รับรางวัล International Facility Management Association Award of Excellenceในปี 2020โดยจนถึงขณะนี้มีการติดตั้งระบบ OBEMในสำนักงานของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดมากกว่า 20สาขา และจะครอบคลุมอาคารมากกว่า 90 แห่งทั่วเอเชียแปซิฟิก รวมถึงในจีน อินเดีย มาเลเซีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และไทย ซึ่งความพยายามในการวางระบบอาคารดิจิทัลนี้สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการจัดการความยั่งยืนของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ซึ่งมุ่งมั่นปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์จากการดำเนินงานขององค์กรภายในปี 2030
- การปรับปรุงระบบโดยทำสัญญาพลังงานกับโรสเธียเตอร์ในญี่ปุ่น
- ศูนย์วัฒนธรรมโรสเธียร์เตอร์ (Rose Theater)ซึ่งตั้งอยู่ที่เชิงภูเขาไฟฟูจิ ได้ทำสัญญาพลังงาน (Energy Performance Contract)เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการดำเนินงานของศูนย์ หลังจากเปิดบริการมานานกว่า 25ปี โดยจอห์นสัน คอนโทรลส์ ได้ให้บริการประเมินการประหยัดพลังงานขั้นสูงซึ่งช่วยให้โรสเธียร์เตอร์ได้รับการอุดหนุนจากภาครัฐ โดยสัญญาฉบับดังกล่าวประกอบด้วยข้อตกลงด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงาน 15ปี ซึ่งครอบคลุมระบบ Metasys,อินเวอร์เตอร์เครื่องส่งลมเย็น (AHU), การยกเครื่องใหม่ทั้งหมด, ระบบตรวจสอบก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สำหรับการควบคุมอินเวอร์เตอร์ และระบบทำความร้อนที่มีประสิทธิภาพหลายประเภท โซลูชันของจอห์นสัน คอนโทรลส์ ส่งผลให้สภาพแวดล้อมในอาคารสบายยิ่งขึ้น และสามารถจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลายรูปแบบในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงหอประชุม พื้นที่จัดนิทรรศการ ห้องประชุม ห้องจัดพิธีชงชา และห้องฝึกซ้อม โดยการปรับปรุงครั้งนี้จะช่วยให้โรสเธียร์เตอร์สามารถลดการใช้พลังงานได้ 39%และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 42%พร้อมประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน 40%และทางศูนย์สามารถกลับมาเปิดให้บริการได้เร็วกว่ากำหนด เนื่องจากการปรับปรุงทั้งหมดเสร็จก่อนเวลา
- การใช้ปั๊มความร้อนในศูนย์บริหารจัดการเทศบาลนครปักกิ่ง ประเทศจีน
- ปัจจุบัน ศูนย์บริหารจัดการเทศบาลนครปักกิ่งเป็นสถานที่จัดแสดงระบบนิเวศคาร์บอนต่ำด้วยการใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจอห์นสัน คอนโทรลส์ ได้ร่วมมือกับทางศูนย์เพื่อสร้างระบบทำความร้อนและทำความเย็นขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพ อัจฉริยะ และเชื่อถือได้ โดยในระยะเวลา 4 เดือน ระบบปั๊มความร้อนสามารถทดแทนการใช้ก๊าซธรรมชาติได้ถึง 12 ล้านลูกบาศก์เมตร เทียบเท่ากับการประหยัดถ่านหินมาตรฐาน 15,000 ตัน ทั้งยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 40,000 ตัน และมีการปลูกต้นไม้รอบสถานีพลังงานเพิ่มอีก 100,000 ต้น ทั้งนี้ โซลูชันดังกล่าวประกอบด้วยระบบปั๊มความร้อนจากแหล่งใต้พิภพ 4 ระบบที่มีกำลังการผลิตรวม 39 เมกะวัตต์และติดตั้งอยู่ในสถานีพลังงานแห่งหนึ่ง ซึ่งให้ความร้อนและความเย็นจากส่วนกลางอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับสำนักงานบริหารที่มีพื้นที่อาคารทั้งหมดประมาณ 960,000 ตารางเมตร โดยใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพ
Visal Leng รองประธานบริษัท และประธานฝ่ายโซลูชันอาคารประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของจอห์นสัน คอนโทรลส์ กล่าวว่า "เราตระหนักถึงความมุ่งมั่นที่เพิ่มขึ้นของบริษัทต่าง ๆ ในการลดการปล่อยคาร์บอน และทราบดีถึงความท้าทายมากมายที่พวกเขาต้องเผชิญ ซึ่งรวมถึงช่องว่างด้านเงินทุนและความรู้ การทำงานร่วมกับลูกค้าหลากหลายกลุ่มทั่วภูมิภาคทำให้เราค้นพบแนวทางใหม่เพื่อให้พวกเขาบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน และเทคโนโลยีดิจิทัล OpenBlue ของเราได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อมได้อย่างมีนัยสำคัญ"
เทคโนโลยีปั๊มความร้อนมีการใช้งานแล้วในปัจจุบัน แต่ยังไม่ค่อยแพร่หลายในเอเชียแปซิฟิก ปั๊มความร้อนสามารถใช้งานในหลายอุตสาหกรรมที่มีการใช้น้ำร้อนในปริมาณมาก เช่น การผลิตอาหาร การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ และโรงแรม เทคโนโลยีดังกล่าวมีศักยภาพมหาศาลในการลดการปล่อยคาร์บอน ด้วยการใช้ปั๊มความร้อนแทนหม้อไอน้ำและเตาเผาซึ่งใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล โดยปั๊มความร้อนประหยัดพลังงานมากกว่าหม้อไอน้ำและเตาเผาทั่วไป 3-4 เท่า และยังช่วยให้กระบวนการทำความร้อนมีความเป็นกลางทางคาร์บอนเมื่อใช้ร่วมกับพลังงานหมุนเวียน คุณ Leng กล่าวเสริมว่า "เราเล็งเห็นความสนใจในปั๊มความร้อนที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศที่มีข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดมากกว่า เช่น นิวซีแลนด์ และจากบริษัทที่มีเป้าหมายในการลดคาร์บอน" ทั้งนี้ จอห์นสัน คอนโทรลส์ มีความกว้างขวางทางธุรกิจในแง่ของขนาด ประสิทธิภาพ และช่วงอุณหภูมิในระดับโลก และยังคงเดินหน้าช่วยลูกค้าลดการปล่อยคาร์บอนต่อไป
ประสิทธิภาพการใช้พลังงานยังคงเป็นเป้าหมายที่บรรลุได้ไม่ยากสำหรับการลดการปล่อยคาร์บอนในภาคส่วนสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โรคระบาดได้ส่งผลกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ และเน้นย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นของการปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคาร ซึ่งส่งผลให้ความต้องการปรับปรุงระบบเพิ่มมากขึ้น และนี่คือโอกาสในการฟื้นฟูให้ดีกว่าเดิม โดยบริษัทต่าง ๆ สามารถใช้ประโยชน์จากเงินจูงใจและเงินกู้ที่รัฐบาลและธนาคารจัดหาให้ เพื่อออกค่าใช้จ่ายล่วงหน้าบางส่วน
Katie McGinty รองประธานบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความยั่งยืน ภาครัฐสัมพันธ์ และการกำกับดูแลของจอห์นสัน คอนโทรลส์ กล่าวว่า "โซลูชันคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์แบบ 360 องศามีความจำเป็นและเป็นที่ต้องการอย่างชัดเจน ในขณะที่ภาคธุรกิจ ภาครัฐ และกลุ่มพันธมิตรทั่วโลกต่างตั้งเป้าหมายด้านความยั่งยืนอย่างมุ่งมั่นตลอดสองทศวรรษข้างหน้า โดยหลายฝ่ายตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยคาร์บอนภายในปี 2030 ซึ่งแพลตฟอร์มสถาปัตยกรรมแบบเปิดอย่างเต็มรูปแบบ OpenBlue ของเราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้มากกว่า 50% รวมถึงลดการปล่อยคาร์บอนอย่างสอดคล้องกัน เราตระหนักดีว่าการลดคาร์บอนของอาคารเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา เนื่องจากอาคารต่าง ๆ ปล่อยคาร์บอนมากถึง 40% ของการปล่อยคาร์บอนทั่วโลก"
การวางระบบดิจิทัลคือตัวขับเคลื่อนหลักสำหรับบริษัทและองค์กรต่าง ๆ ในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 หรือก่อนหน้านั้น จอห์นสัน คอนโทรลส์ จึงนำเสนอโซลูชันที่แนะนำลูกค้าในขั้นตอนต่าง ๆ ของเส้นทางสู่ระบบดิจิทัล เพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์และเป้าหมายด้านการจัดการความเสี่ยง ตัวอย่างเช่น บริษัทนำเสนอโซลูชันการเชื่อมอุปกรณ์กับระบบคลาวด์เพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของบริการและโซลูชัน OpenBlue นอกจากนี้ บริษัทยังทำงานร่วมกับนักพัฒนารายใหญ่ที่สุดและสถาบันการศึกษาที่มองการณ์ไกลที่สุดในภูมิภาค เพื่อพัฒนาอาคารระบบอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยี Digital Twins และ AI
จอห์นสัน คอนโทรลส์ ได้กำหนดเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนอย่างจริงจัง และเพิ่งได้รับการรับรองจาก Science Based Targets Initiative องค์กรอิสระที่ประเมินคำร้องด้านความยั่งยืนขององค์กร โดยจอห์นสัน คอนโทรลส์ ตั้งเป้าลดการปล่อยคาร์บอนจากการดำเนินงาน 55% และลดการปล่อยคาร์บอนของลูกค้าลง 16% ก่อนปี 2030 ตามพันธกิจความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งแพลตฟอร์ม OpenBlue สำหรับปรับปรุงความยั่งยืนของอาคารจะเป็นส่วนสำคัญในการบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ ตลอดจนสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้ผู้คน สถานที่ และโลกของเรามีความแข็งแรงสมบูรณ์ในท้ายที่สุด
เกี่ยวกับจอห์นสัน คอนโทรลส์
ที่จอห์นสัน คอนโทรลส์ (NYSE:JCI) เราเปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่ผู้คนอยู่อาศัย ทำงาน เรียนรู้ และเล่นสนุก ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านอาคารอัจฉริยะ เป็นมิตรต่อสุขภาพ และยั่งยืน พันธกิจของเราคือนำเสนอประสิทธิภาพของอาคารในรูปแบบใหม่เพื่อให้บริการผู้คน สถานที่ และโลกใบนี้
ด้วยประวัติศาสตร์ด้านนวัตกรรมกว่า 135 ปี ทำให้จอห์นสัน คอนโทรลส์ นำเสนอพิมพ์เขียวแห่งอนาคตของอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น สาธารณสุข โรงเรียน ศูนย์ข้อมูล สนามบิน สนามกีฬา การผลิต และอื่น ๆ ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล OpenBlue ที่ครอบคลุม ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก 100,000 คนในกว่า 150 ประเทศ จอห์นสัน คอนโทรลส์ นำเสนอโซลูชันเทคโนโลยี ซอฟต์แวร์ และบริการอาคารที่มากที่สุดในโลก ด้วยชื่อเสียงของแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจเป็นอันดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรม ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.johnsoncontrols.sg หรือติดตามเราได้ทางลิงก์อิน https://www.linkedin.com/showcase/johnson-controls-asia-pacific/
รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1572584/Japan_Rose_Theater_inside.jpg
คำบรรยายภาพ: ศูนย์วัฒนธรรมโรสเธียร์เตอร์ ซึ่งตั้งอยู่ที่เชิงภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น ร่วมมือกับจอห์นสัน คอนโทรลส์ ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการดำเนินงาน