นายดิถดนัย สังขะรมย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด (มหาชน) (AMR) เปิดเผยว่า การจองซื้อหุ้นไอพีโอของ AMR จำนวน 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น ในราคาหุ้นละ 6.90 บาท ระหว่างวันที่ 21 - 23 ก.ค.2564 ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างคึกคัก มีนักลงทุนทั่วไปและนักลงทุนสถาบัน จองซื้อเข้ามาเกินจำนวนเสนอขาย เนื่องจากมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานของ AMR ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมการวางระบบเทคโนโลยีโซลูชั่นแบบครบวงจร ธุรกิจอยู่ในเมกะเทรนด์ จากการขยายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนของประเทศ ทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจ ทำให้มีโอกาสได้งานใหม่เพิ่มเติมอีกเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ หุ้น AMR ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันและรายย่อยอย่างมาก เนื่องจากการกำหนดราคาหุ้นอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 15.33 เท่า (Post-IPO Dilution) ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ และมีส่วนลดให้กับนักลงทุน มีแผนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 2 ส.ค.2564 ในหมวดธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
"AMR เป็นหุ้นไอทีโซลูชั่น มีฐานะทางการเงินที่มีความแข็งแกร่ง มีจุดเด่นในเรื่อง Intelligent Transportation Systems เป็นบริษัทฯ ที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เพราะธุรกิจที่เติบโตตามเมกะเทรนด์ ซึ่งประเทศไทยยังต้องลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชน ไอที และพลังงาน อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะคว้างานใหม่ๆ เพิ่มเติมได้อีกมากในอนาคต อีกทั้งจากวิสัยทัศน์ของทีมผู้บริหาร ที่เตรียมพร้อมขยายการลงทุน เข้าสู่ธุรกิจการให้บริการ Feeder Line และ Smart City เพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ ผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน" นายดิถดนัย กล่าวในที่สุด
นายมารุต ศิริโก กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด (มหาชน) (AMR) กล่าวว่า เป้าหมายการระดมทุนผ่านการขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมนำเงินที่ได้ไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจด้านคมนาคมขนส่ง ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Feeder Line การลงทุนธุรกิจ EV Charging Station และ Smart City ในสัดส่วนร้อยละ 85 รวมถึงนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ในสัดส่วนร้อยละ 10 และใช้สำหรับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ในสัดส่วนร้อยละ 5
"ผมมั่นใจว่าธุรกิจของ AMR ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามการขยายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบขนส่งไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้าทางคู่ รถไฟตามต่างจังหวัด รถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ หรือการขยายการลงทุนในหัวเมืองหลัก ทำให้ AMR มีโอกาสได้งานใหม่เพิ่มเติม"
เขากล่าวอีกว่า จากประสบการณ์การดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 20 ปี ภายใต้จุดแข็งเป็นผู้ให้บริการไอทีโซลูชั่นครบวงจร และป็นบริษัทฯ คนไทยที่มีศักยภาพและมาตรฐานการทำงานเทียบเท่าต่างชาติ สามารถออกแบบและวางระบบ ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้อย่างลงตัว อีกทั้งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยิ่งทำให้เห็นว่า AMR สามารถเข้าไปแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้ทันที ขณะที่การให้บริการของคู่แข่งที่เป็นต่างชาติ อาจมีข้อจำกัดในช่วงรัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ประเทศ
"หลังจากที่ได้รับเงินจากการระดมทุนในครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในระดับประเทศและนานาชาติ เพิ่มโอกาสในการแข่งขันประมูลงานขนาดใหญ่เพิ่มมากขึ้น โดยเป้าหมายหลักของการใช้เงินราว 85% จะใช้เพื่อลงทุนและสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งคณะผู้บริหารและพนักงานของ AMR ทุกคนมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างผลงานให้โดดเด่นและยั่งยืนในอนาคต และหวังว่า AMR จะเป็นหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน" นายมารุต กล่าวในที่สุด
ที่มา: เอเอ็มอาร์ เอเซีย