ด้าน ภก. ณัฐที เทียนศิริ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างสุขภาพแบบองค์รวม (Well Being) กล่าวว่า ตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไปจะเกิดปัญหาของการเสื่อมสภาพของร่างกาย หลายคนที่ไม่สนใจดูแลสุขภาพตั้งแต่วัยหนุ่มสาว อาจพบปัญหาโรคหลอดเลือดหัวใจ เบาหวาน ความดัน สายตา ตับทำงานไม่ดี และข้อต่อต่างๆ ตามมา ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะเริ่มเห็นได้ชัดมากขึ้น เมื่อก้าวเข้าสู่วัย 50ปีขึ้นไป รวมถึงในวัยนี้ยังมีปัญหาเรื่องของการรับประทานอาหารได้น้อยลง ส่งผลให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ
ดังนั้นผู้ที่อยู่ในวัยนี้ควรให้ความสำคัญกับเรื่องของอาหาร ควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกของทอดต่างๆ อาหารที่มีส่วนประกอบของไขมันจำนวนมาก เพราะจะทำให้เกิด Low-Density Lipoprotein (LDL) ไขมันชนิดไม่ดี ซึ่งสามารถทำให้เกิดภาวะโรคหลอดเลือดแดงแข็งตัวได้ ควรเน้นอาหารประเภทต้ม นึ่งแทน ส่วนอาหารที่มีคาร์โบไฮเดต เช่น ขนมไทย ของหวาน ลดการรับประทานผลไม้ที่มีรสหวานมาก การทานข้าวควรเป็นข้าวกล้อง เพราะมีปริมาณน้ำตาลไม่มาก รวมถึงควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
อย่างไรก็ตาม หากร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ คนในวัย 50 ปีขึ้นไป ควรเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของวิตามินหลายชนิดรวมกัน เช่น มีวิตามินรวม เพื่อให้ร่างกายได้รับแร่ธาตุหลายชนิด โดยเน้นไปที่วิตามินบี ช่วยลดปัญหาภาวะอ่อนเพลียต่างๆ รวมถึงสมุนไพรหลายประเภทยังเหมาะกับคนในวัยนี้ เช่น เห็ดหลินจือ มีส่วนช่วยป้องกันไขมันอุดตันหลอดเลือด โสม กระตุ้นให้ร่างกายนำน้ำตาลไปใช้งานได้มากขึ้น เร่งกระบวนการเผาผลาญในร่างกายให้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพทำให้ร่างกายได้รับพลังงานที่ดี ปักคี้ (แอสทรากาลัส) สมุนไพรจีนอีกประเภทที่จะเห็นได้จากอาหารตุ่นของจีนมีคุณสมบัติช่วยในเรื่องภูมิคุ้มกัน
ดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหน ก็สนุกได้ทุกกิจกรรม เริ่มต้นตอนนี้เพื่อสูงวัยอย่างมีคุณภาพ
ที่มา: พีอาร์ สตอรี่