โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมาหากเราอยากจะไปตรวจเอชไอวี อาจจะต้องเสียเวลาประมาณ 1 วัน ตั้งแต่นัดจองคิว ดำเนินการตรวจ ซักประวัติ เจาะเลือด และฟังผลการตรวจ แต่ปัจจุบันด้วยวิวัฒนาการที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้การตรวจเอชไอวีอาจไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว โดยเฉพาะกับประชาชนชาวไทยที่กำลังจะมี "ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง" ซึ่งทั้งง่ายและตรวจได้ตลอดเวลา และเพื่อเป็นการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปอีกด้วย
การมีชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเองนั้น ส่งผลให้สามารถเข้าถึงผู้ที่สงสัยว่าอาจจะติดเชื้อเอชไอวีให้สามารถคัดกรองตนเองก่อนเข้ารับบริการตรวจด้วยการเจาะเลือด ไม่ว่าจะเป็นการตรวจด้วยเยื่อบุกระพุ้งแก้ม หรือการเจาะเลือดที่ปลายนิ้ว โดยสามารถอ่านค่าได้ด้วยตนเอง และได้รับคำปรึกษาผ่านช่องทางต่างๆ อาทิเช่น โทรศัพท์ หรือ Online ในการพูดคุยและรับบริการต่อไปหากผลเลือดเป็นบวก
ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ พ.ศ. 2560-2573 ของคณะกรรมการว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ ที่มุ่งเน้นจัดชุดบริการที่เหมาะสม เพื่อเข้าถึงผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี และนำไปสู่เป้าหมายในการลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ไม่เกิน 1,000 คนต่อปี, ลดการเสียชีวิตเหลือปีละไม่เกิน 4,000 คน และลดการเลือกปฏิบัติต่อผู้ที่อยู่ร่วมกับเอชไอวี ซึ่งชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเองถือเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่จะทำให้ผู้ที่มีความเสี่ยงทราบได้รวดเร็วด้วยตนเอง อันเป็นการลดการเสียชีวิตได้ในอนาคตหากเข้าสู่กระบวนการรักษาเมื่อติดเชื้อได้ทันทีด้วย
อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจที่ดำเนินการจัดเก็บโดย UNAIDS เปิดเผยว่าในปี พ.ศ. 2563 ในประเทศไทยมีผู้ที่อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีทั้งหมดกว่า 500,000 คน โดยมีผู้ที่ติดเชื้อรายใหม่กว่า 6,600 คน คิดเป็นสัดส่วนต่อประชากร 1,000 คนอยู่ที่ร้อยละ 0.10 โดยร้อยละ 92.46 ทราบสถานะผลเลือดของตนเอง, ร้อยละ 74.98 เป็นผู้ที่อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีที่เข้าสู่กระบวนการรักษาแล้ว และมีเพียงร้อยละ 72.94 ที่รักษาจนระดับเชื้อไวรัสต่อเลือด 1 หยดเหลือน้อยกว่า 40 ตัว
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้อนุมัติชุดตรวจเชื้อเอชไอวีด้วยตนเอง หรือ HIV Self-Test ตัวแรกในประเทศไทย โดยมีชื่อว่า Insti ซึ่งใช้วิธีการเจาะเลือดที่ปลายนิ้วเพื่อตรวจและสามารถทราบผลได้ภายในระยะเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น
INSTI HIV Self Test เป็นชุดตรวจเอชไอวีที่ให้ผลตรวจเร็วที่สุดในโลกในเวลานี้ โดยสามารถแจ้งผลได้ทันทีหรือหลังจากหยดน้ำยาขวดสุดท้าย ขณะที่ยี่ห้ออื่นต้องรอผลประมาณ 15-30 นาที นอกจากนี้แล้ว อินสติยังสามารถตรวจแอนติบอดีต่อเชื้อเอชไอวีได้ด้วยเลือดเพียงหยดเดียว และให้ผลเร็วกว่าชุดตรวจยี่ห้ออื่นถึง 2 สัปดาห์ ที่สำคัญคือใช้งานง่ายและให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำมากกว่า 99% อินสติ INSTI HIV Self-Test เทียบได้กับชุดตรวจ INSTI HIV-1/HIV-2 Antibody Test ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก สำหรับในประเทศไทยนำเข้าโดย บริษัท ไฮเจีย ลอจิสติกส์ จำกัด
สำหรับใครที่สนใจและต้องการตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง สามารถสั่งซื้อได้ผ่านทางเว็บไซต์ https://thailandhivtest.com/ ได้ทันที
ที่มา: ส่องสื่อ มีเดีย แล็ป