นายรัชกร เจนพัฒนพงศ์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทยและอินโดจีน มาร์สไทยแลนด์อิงค์ ผู้ดำเนินธุรกิจแบรนด์อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงทั้งสุนัขและแมวในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ PEDIGREE(R), WHISKAS(R), IAMS(R) ROYAL CANIN(R), CESAR(R), SHEBA(R), TEMPTATIONS(R) รวมทั้งทรายอนามัยสำหรับแมวแบรนด์ CATSAN(R) เปิดเผยว่า มาร์สไทยแลนด์อิงค์ ได้เดินหน้าธุรกิจเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพและโภชนาการของสัตว์เลี้ยง ควบคู่ไปกับแผนการสร้างธุรกิจยั่งยืน (Sustainable in a Generation Plan) ตามโยบายของบริษัทแม่ มาร์ส อินคอร์ปอเรทเต็ด
สำหรับแผนการสร้างธุรกิจยั่งยืน (Sustainable in a Generation Plan) ของ มาร์ส อินคอร์ปอเรทเต็ด จะมุ่งเน้นใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ Healthy Planet, Thriving People และ Nourishing Wellbeing
- Healthy Planet ลดการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ไม่ยั่งยืน มุ่งพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เน้นผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ รีไซเคิล หรือย่อยสลายได้ โดยมีเป้าหมายลดการใช้พลาสติกบริสุทธิ์ลง 25% ภายในปี 2025 ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดในห่วงโซ่การผลิตลง 27% ภายในปี 2025 และ 67% ภายในปี 2050 รวมถึงลดการใช้น้ำที่ไม่ยั่งยืนในห่วงโซ่การผลิต เริ่มด้วยการลดลง 50% ภายในปี 2025 และบริหารจัดการที่ดินทั้งหมดอย่างมีประสิทธิภาพ
- Thriving People มุ่งพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คนที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิต ไม่ว่าจะเป็น เกษตรกร คนงาน ผู้หญิง และเด็ก ผ่านโครงการต่างๆ ที่ครอบคลุมในเรื่องของการพัฒนารายได้เกษตรกร ภายใต้โปรแกรมที่ผสมผสานแนวปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี การคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนและไม่ใช้แรงงานเด็กในส่วนของโรงงานผลิตของ Mars ทุกแห่ง รวมทั้งโรงงานของซัพพลายเออร์ด้วย
- Nourishing Wellbeing เปิดเผยข้อมูลต่อผู้บริโภคอย่างโปร่งใส สร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ดีต่อสุขภาพ โดยพัฒนาคุณค่าทางโภชนาการของผลิตภัณฑ์ของบริษัท มุ่งเน้นความปลอดภัยและความมั่นคงด้านอาหารผ่าน Mars Global Food Safety Center เพื่อจัดการกับความท้าทายด้านความปลอดภัยของอาหารในระยะยาว 3 ประการ ได้แก่ การจัดการความเสี่ยงจากสารพิษจากเชื้อรา การจัดการความเสี่ยงด้านจุลินทรีย์ และความมั่นคงสมบูรณ์ของอาหาร
"นโยบายของมาร์ส ในการดำเนินธุรกิจ จะมุ่งเน้นการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้เกิดขึ้นและนำมาซึ่งการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เริ่มตั้งแต่การวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับความท้าทายด้านความปลอดภัยของอาหาร ไปจนถึงประเภทของบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งยังมุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่อย่างไม่หยุดยั้ง พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ร่วมงานและชุมชนโดยรอบ" นายรัชกร กล่าว
ล่าสุด มาร์สไทยแลนด์อิงค์ ได้เปิดให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงได้มีส่วนร่วมในการช่วยลดขยะเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยังยืน กับแคมเปญ "แลกแล้ว-ลดเลย" เพียงนำถุงเปล่า อาหารสุนัขหรืออาหารแมวแบรนด์ใดก็ได้ขนาด 1 กิโลกรัมขึ้นไป นำมาใช้แลกเป็นส่วนลดอาหาร Pedigree, IAMS, Whiskas สูงสุด 100 บาท โดยแคมเปญดังกล่าว เฉพาะร้านค้าทั่วประเทศที่ร่วมรายการ และขยายระยะเวลาไปจนถึง 31 ส.ค.64 หรือ ติดตามรายละเอียดได้ทาง FB: Pedigree Thailand และ FB: Whiskas Thailand
ที่มา: อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น