นายทศพล จินันท์เดช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ.เจ. พลาสท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้จากการขายรวมปี 2564 มากกว่า 9,000 ล้านบาท ตามกลยุทธ์ที่วางไว้
ด้านผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2564 มีรายได้จากการขายรวม 4,372 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.17% และมีกำไรสุทธิ 273 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนกำไรก่อนหักต้นทุนทางการเงินภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) (ไม่รวมกำไรขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน) อยู่ที่ 537 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.82% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับไตรมาส 2/2564 มีรายได้จากการขายรวม 2,352 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.16% และมีกำไรสุทธิ (ไม่รวมกำไรขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน) อยู่ที่ 189 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.31% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
การเติบโตของกำไรโดยหลักมาจากสินค้าแผ่นฟิล์มบีโอพีเอ (BOPA) ซึ่งมีคุณภาพที่ได้รับการยอมรับว่าเทียบเท่ากับฟิล์มนำเข้า จึงสามารถทดแทนการนำเข้าได้ 100% และตลาดยังคงมีความต้องการมากอย่างต่อเนื่อง และบริษัทยังมีโครงการขยายกำลังการผลิตแผ่นฟิล์มบีโอพีพี (BOPP) ที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันตลาดแผ่นฟิล์มบีโอพีพีในประเทศเวียดนามมีส่วนต่างระหว่างราคาขายกับเม็ดพลาสติก (Spread) สูงกว่านอกประเทศประมาณมากกว่า US$300 ต่อตัน ส่วนแผ่นฟิล์มบีโอพีอีที (BOPET) ที่ประเทศไทย คาดว่าจะเริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในครึ่งปีหลังของปี 2565 นอกจากนี้บริษัทยังจะมีรายได้เพิ่มจากการเพิ่มสายการผลิตเคลือบผิวอะลูมิเนียมหรือ Metalized Film ที่จะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในปี 2565
ส่วนทิศทางในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 บริษัทคาดว่าจะสามารถรักษาการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยการควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ และปรับปรุงงานอย่างต่อเนื่องในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้ เพื่อรักษาอัตรา EBITDA Margin ให้อยู่ในระดับ 12% ใกล้เคียงปัจจุบัน
คณะกรรมการบริษัทฯอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลปี 2564 ในอัตรา 0.40 บาทต่อหุ้น เป็นเงินทั้งสิ้น 176 ล้านบาท ให้ผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) วันที่ 26 ส.ค. 2564 และขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 25 ส.ค. 2564 กำหนดจ่ายเงินวันที่ 9 ก.ย. 2564
ที่มา: เอ.เจ พลาสท์