การ์ทเนอร์ชี้รายได้จากบริการโครงข่าย 5G ทั่วโลกจะโต 39% ในปีนี้

พุธ ๑๘ สิงหาคม ๒๐๒๑ ๐๘:๕๓
การ์ทเนอร์ อิงค์ คาดการณ์รายได้จากการเปิดให้บริการโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G ทั่วโลก จะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วที่ 39% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 19.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีนี้ เพิ่มจาก 13.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2563

มร.ไมเคิล โพโรสกี้ นักวิเคราะห์อาวุโสของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า "ผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร (CSPs) ในตลาดใหญ่ ๆ ที่เร่งเปิดให้บริการ 5G ในปีก่อนและปีนี้จะมีสัดส่วนรายได้จาก 5G อยู่ที่ 39% ของรายได้จากเครือข่ายไร้สายทั้งหมดที่เปิดให้บริการในปีนี้ ซึ่งการแพร่ระบาด COVID-19 กระตุ้นความต้องการในการเพิ่มประสิทธิภาพและการเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ที่มีความเร็วสูงสำหรับใช้ทำงานจากที่บ้านและการใช้แอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่กินแบนด์วิธสูง อาทิ การชมสตรีมวิดีโอ เล่นเกมออนไลน์ และใช้แอปพลิเคชั่นโซเชียลมีเดีย"

เครือข่าย 5G เติบโตรวดเร็วที่สุดในกลุ่มตลาดโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายไร้สาย (ดูตามตารางที่ 1) และเป็นโอกาสการลงทุนเดียวที่สร้างการเติบโตสำคัญแก่ผู้ให้บริการ เนื่องจากแนวโน้มการลงทุนในเครือข่ายไร้สายรุ่นก่อน ๆ กำลังลดลงรวดเร็วทุกภูมิภาครวมถึงการใช้จ่ายในเซลล์เครือข่ายขนาดเล็กที่ไม่ใช่ 5G ตามที่ผู้ให้บริการสื่อสารหันไปใช้เซลล์เครือข่ายขนาดเล็กของ 5G แทนที่

ในระดับภูมิภาค ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารในแถบอเมริกาเหนือตั้งเป้ามีรายได้เพิ่มจากบริการ 5G จากเดิม 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีก่อน เป็น 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีนี้ ส่วนนึงจากการนำคลื่นความถี่แบบไดนามิกมาปรับใช้ร่วมกันและเพิ่มสถานีฐานรับ-ส่งสัญญาณคลื่นแบบ mmWave ขณะที่ผู้ให้บริการในยุโรปตะวันตกกลับให้ความสำคัญกับการออกใบอนุญาตคลื่นความถี่ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานหลักให้ทันสมัยเพื่อรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์พกพาและปรับบริการให้เข้ากับกระบวนการกำกับดูแล ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้จาก 5G เพิ่มเป็น 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีนี้ จาก 794 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว โดยประเทศจีนยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำเบอร์ 1 ของโลก ด้วยรายได้จากเครือข่าย 5G สูงแตะ 9.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีนี้ เพิ่มจาก 7.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากปี 2563

ในอีก 3 ปี สัญญาญ 5G จะครอบคลุมพื้นที่เมืองหลักทั่วโลกถึง 60%

จากปีก่อนที่มีเพียง 10% ของผู้ให้บริการสื่อสารที่เปิดบริการ 5G เชิงพาณิชย์ การ์ทเนอร์คาดว่าภายในปี 2567 ตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 60% ใกล้เคียงกับอัตราการปรับใช้เครือข่าย LTE และ 4G ในอดีต เนื่องจากความสำเร็จในการเปิดให้บริการในหลากหลายภูมิภาคพร้อม ๆ กัน 

"ความต้องการของธุรกิจและกลุ่มลูกค้าเป็นปัจจัยเร่งที่มีอิทธิพลต่อการเติบโตดังกล่าว เมื่อผู้บริโภคกลับมาทำงานที่ออฟฟิศ พวกเขาจะอัปเกรดหรือเปลี่ยนไปใช้อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ความเร็วสูงภายในบ้านผ่านสายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง (FTTH) เนื่องจากการเชื่อมต่อได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบริการระยะไกล โดยผู้ใช้จะคัดสรรผู้ให้บริการเครือข่ายอย่างละเอียดเมื่อต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งที่ออฟฟิศและจากบ้านเพิ่มขึ้น" มร.โพโรสกี้ กล่าวเพิ่มเติม 

พฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วช่วยกระตุ้นการเติบโตเทคโนโลยีโครงข่ายเชิงแสงแบบพาสซีฟ (Passive Optical Network หรือ PON) ในตลาดทั่วโลก ให้กลายเป็นเทคโนโลยีที่ใคร ๆ ก็ต้องการ โดยที่เทคโนโลยี 10 Gigabit-capable symmetric-PON (XGS-PON) ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่และด้วยราคาที่ต่างกันกับเทคโนโลยีอื่น ๆ ผู้ให้บริการยินดีลงทุนในเทคโนโลยี XGS-PON เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่แตกต่างให้กับลูกค้าและเสริมคุณภาพให้กับเครือข่าย การ์ทเนอร์คาดว่าภายในปี 2568 จะมีผู้ให้บริการสื่อสารชั้นนำประมาณ 60% นำเทคโนโลยี XGS-PON มาปรับใช้ในวงกว้างเพื่อขยายบริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเป็นพิเศษแก่ผู้ใช้ตามบ้านและเชิงพาณิชย์ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่น้อยกว่า 30% ในปี 2563

ลูกค้าการ์ทเนอร์สามารถคลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่รายงาน  "Forecast Analysis: Communications Service Provider Operational Technology, Worldwide" และ "Forecast: Communications Service Provider Operational Technology, Worldwide, 2019-2025, 2Q21 Update." 

เกี่ยวกับ Gartner for High Tech 

Gartner for High Tech นำเสนอแนวทางปฏิบัติ ข้อมูลเชิงลึกของอุตสาหกรรม และมุมมองเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับแนวโน้มที่เกิดขึ้นใหม่รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของตลาด เพื่อให้ผู้นำและทีมงานด้านเทคโนโลยีเตรียมพร้อมรับมือตามบทบาทหน้าที่ อันนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายสำคัญทางธุรกิจและสร้างองค์กรให้ประสบความสำเร็จในอนาคต คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.gartner.com/en/industries/high-tech หรือติดตามข้อมูลและข่าวสารจาก Gartner for High Tech บน Twitter และ LinkedIn โดยใช้ #GartnerHT

เกี่ยวกับการ์ทเนอร์ 

บริษัท การ์ทเนอร์ (Gartner, Inc.) (NYSE: IT) คือบริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาชั้นนำของโลก และมีรายชื่ออยู่ในดัชนี S&P 500 บริษัทฯ ให้ข้อมูลเชิงลึก คำแนะนำ และเครื่องมือต่าง ๆ แก่ผู้บริหารองค์กรธุรกิจ เพื่อรองรับการดำเนินภารกิจสำคัญที่มีอยู่ในปัจจุบันและสร้างองค์กรให้ประสบความสำเร็จในอนาคต

การ์ทเนอร์นำเสนองานวิจัยที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญ และใช้แหล่งข้อมูลจากผู้ปฏิบัติงานจริง เพื่อชี้นำลูกค้าสำหรับการตัดสินใจที่ถูกต้องเหมาะสมในเรื่องที่สำคัญที่สุด การ์ทเนอร์ทำหน้าที่เป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นกลางและเป็นที่ปรึกษาที่ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรต่าง ๆ กว่า 14,000 แห่งในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทุกส่วนงานสำคัญ ๆ ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมและองค์กรทุกขนาด

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางของการ์ทเนอร์ในการช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจอย่างถูกต้องเพื่อขับเคลื่อนอนาคตของธุรกิจได้ที่ gartner.com 

ที่มา: พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO