คอลเลคเชียสได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 โดยได้เข้าซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) มูลค่ากว่า 368.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หนึ่งหมื่นสองพันสองร้อยล้านบาท)
กุสตอฟ อัลเบิร์ท อีริคส์สัน (Gustav A. Eriksson) CEO กลุ่มบริษัท คอลเลคเชียส กล่าวว่า "ปัจจุบัน ถ้าพูดถึงการซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและการให้บริการติดตามหนี้แล้ว ประเทศไทยนับได้ว่าเป็นหนึ่งในตลาดที่มีความพร้อมมากที่สุดในเอเชีย เนื่องจากมีสัดส่วน NPL ที่ค่อนข้างสูง รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการกำกับดูแลที่ดี ในฐานะที่คอลเลคเชียสเป็นพันธมิตรด้านการปรับโครงสร้างหนี้ชั้นนำในเอเชีย เรามองว่าการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะเป็นก้าวต่อไปในการเติบโตของคอลเลคเชียสในประเทศไทย แม้ว่าคอลเลคเชียสจะมีศักยภาพในการเข้าซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและให้บริการติดตามหนี้อยู่แล้ว แต่การเข้าซื้อกิจการบริษัท แมกเนท กรุ๊ป พลัส จำกัด จะเสริมความแข็งแกร่งและความสามารถในการบริหารหนี้ได้อย่างครบวงจรและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเป็นการขยายฐานลูกค้าในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจาก 300,000 ราย เป็น 500,000 ราย หรือกว่า 70%"
พิมพ์มาดา เจียระนัยปรีดา กรรมการผู้จัดการ คอลเลคเชียส (ประเทศไทย) กล่าวเสริมว่า "การซื้อกิจการครั้งนี้ช่วยให้เรามีศักยภาพในการบริหารหนี้มากขึ้น เรามีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 350 คน เพื่อเป็นการรองรับตลาดที่กำลังเติบโตในประเทศไทย ทำให้เราสามารถเข้าถึงลูกค้าผ่านการเจรจาเพื่อหาแนวทางในการชำระหนี้ร่วมกันอย่างยืดหยุ่น สอดคล้องและเหมาะสมตรงตามความประสงค์ ในนามของทีมงานของคอลเลคเชียส ดิฉันอยากขอบคุณ คุณจีรวัสส์ วงษ์สวรรค์ สำหรับการสร้างรากฐานบริษัทที่ยอดเยี่ยม มีความมั่นคง และมีความเป็นมืออาชีพ โดยคุณจีรวัสส์จะช่วยเราบริหารงานในช่วงการเปลี่ยนผ่านอีกด้วย"
จีรวัสส์ วงษ์สวรรค์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท แมกเนท กรุ๊ป พลัส จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า "แมกเนทเป็นบริษัทที่ให้บริการแก่สถาบันการเงินต่างๆ โดยบริษัทมีผลประกอบการที่ดี มีบุคลากรที่มีศักยภาพและประสิทธิภาพจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของกลุ่มธุรกิจเดียวกัน ในขณะที่คอลเลคเชียสเป็นบริษัทที่มีโครงสร้างที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นด้านเงินทุนและการบริหารจัดการโดยทีมผู้บริหารอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อมีโอกาสได้ผสานส่วนดีๆเข้าด้วยกัน เรามั่นใจว่าจะเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพัฒนาที่ดีขึ้นซึ่งจะช่วยสร้างกำลังผนึกขององค์กรที่มีความแข็งแกร่ง โดยเรามีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ เพื่อความเจริญเติบโต มั่นคง อย่างยั่งยืนและถาวร"
ทั้งนี้ การเข้าซื้อกิจการดังที่กล่าวมาข้างต้น การประสานกันระหว่างบุคลากรของทั้งสององค์กรเป็นไปด้วยดี เนื่องจากมีค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กรที่คล้ายคลึงกัน โดยบุคลากรของแมกเนทจะสามารถได้รับประโยชน์จากความร่วมมือระหว่างกัน เป็นการเพิ่มความมั่นคง รวมทั้งมีการแบ่งปัน Know-How ระหว่างสององค์กรเพื่อพัฒนาการทำงาน โดยบุคลากรที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนก็จะได้รับการพัฒนา และเพิ่มโอกาสความก้าวหน้าไปพร้อมๆกัน เนื่องจากคอลเลคเชียสได้รับการยอมรับด้านการพัฒนาธุรกิจติดตามหนี้ในเอเชียให้ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบดิจิทัล และใช้หลักการมนุษยธรรมในการบริหารจัดการระบบนิเวศน์ทางการเงิน
- บริษัท คอลเลคเชียส ซีเอ็มเอส โฮลดิ้งส์ จำกัด ("คอลเลคเชียส") เข้าซื้อกิจการบริษัท แมกเนท กรุ๊ป พลัส จำกัด ("แมกเนท") ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าบริษัทเร่งรัดหนี้สินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยสั่งสมประสบการณ์มากว่า 20 ปี มีพนักงานทั้งหมดกว่า 350 คน และมีผลประกอบการประจำปีโดยเฉลี่ย 200 ล้านบาท
- การควบรวมกิจการได้เพิ่มฐานลูกค้าของคอลเลคเชียสในประเทศไทยกว่า 70 %
- ปัจจุบันบริษัท แมกเนท กรุ๊ป พลัส จำกัด ให้บริการลูกค้าสถาบันการเงินมากกว่า 10 ราย ครอบคลุมกว่า 20 ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน
- นอกเหนือจากการให้บริการด้านการติดตามหนี้แล้ว คอลเลคเชียสยังได้เข้าซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ ประเทศสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย อินเดีย และเวียดนาม (มูลค่าสินทรัพย์ทั้งภูมิภาครวม 4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านบาท และในประเทศไทยกว่า 368.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือหนึ่งหมื่นสองพันสองร้อยล้านบาท) ทำให้คอลเลคเชียสได้รับการยอมรับในฐานะพันธมิตรด้านการปรับโครงสร้างหนี้จากสถาบันการเงินชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย
ประวัติของคอลเลคเชียส
คอลเลคเชียส เป็นบริษัทบริหารหนี้ชั้นนำในเอเชียโดยเน้นที่นโยบายการปรับโครงสร้างหนี้โดยมีการดำเนินงานในประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซียไทย อินเดีย และเวียดนาม ฐานลูกค้ารวมในตลาดเหล่านี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่าสามล้านราย คอลเลคเชียสตั้งเป้าที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรมติดตามหนี้ในภูมิภาคเอเชีย โดยมีการพัฒนาระบบเพื่อบริหารด้วยเทคโนโลยีแบบครบวงจรที่มีความปลอดภัยสูงต่อฐานข้อมูลลูกค้า และมีประสิทธิภาพต่อกระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้อย่างเป็นมืออาชีพ ซึ่งคอลเลคเชียสหวังว่าจะได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างบรรทัดฐานให้กับธุรกิจนี้ ผู้ก่อตั้งและผู้ถือหุ้นใหญ่ของคอลเลคเชียส ได้แก่ คุณกุสตอฟ อัลเบิร์ท อีริคส์สัน (Gustav A. Eriksson) และ คุณสเวน เอกเซล อิวาร์ ซิกวาร์ดซัน บีเยิร์กลุนด์ (Ivar Bjoerklund) ส่วนหุ้นที่เหลือถือโดย International Finance Corporation (IFC) ซึ่งเป็นสมาชิกในเครือ World Bank Group, กลุ่มบริษัท Stena AB และ Formica Capital
ที่มา: Boy Creation Co.,Ltd.