คุณวันแสง วันนะวง รองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท ผลิต-ไฟฟ้าลาว (มหาชน) หรือ EDL-Gen ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานสะอาดรายใหญ่ใน สปป.ลาว เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ก้าวเข้าสู่ปรากฏการณ์ลานีญา ทำให้ปริมาณน้ำฝนใน สปป. ลาว เพิ่มขึ้นส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดจากพลังงานน้ำภายในประเทศ โดยจากการติดตามข้อมูลจุดวัดระดับน้ำตามเขื่อนของ EDL-Gen พบว่า ปริมาณน้ำฝนในครึ่งปีแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นถึง 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้ลุ่มน้ำต่างๆ ของ สปป. ลาว มีมวลน้ำที่ไหลผ่าน (in flow) เขื่อนต่างๆ ที่เป็นโครงการโรงไฟฟ้าของ EDL-Gen เพิ่มขึ้นถึง 76% ช่วยสนับสนุนประสิทธิภาพการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้แก่ภูมิภาคอาเซียนได้ดีขึ้น
ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าภายใต้ EDL-Gen มีทั้งหมดจำนวน 27 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้ง 1,683 เมกะวัตต์ ที่ได้เริ่มจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้รับอานิสงส์จากปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนโครงการโรงไฟฟ้าที่ EDL-Gen เป็นผู้ลงทุนเอง จำนวน 11 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้ง 699 เมกะวัตต์นั้น มีปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 27% ขณะที่โรงไฟฟ้าอีก 16 โครงการ ที่ EDL-Gen ร่วมทุนกับภาคเอกชน (IPP) กำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนถือหุ้นของ EDL-Gen รวม 984 เมกะวัตต์นั้น มีปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้จากการขายไฟฟ้ารวม 3,472.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66% แบ่งเป็นรายได้การขายไฟฟ้าจากโครงการที่ EDL-Gen เป็นผู้ลงทุนเอง เพิ่มขึ้น 28% จาก 1,566.0 ล้านบาท เป็น 2,005.5 ล้านบาท และรายได้จากส่วนแบ่งกำไรจากโครงการร่วมทุนกับ IPP ที่เพิ่มขึ้นถึง 176% จาก 530.5 ล้านบาท เป็น 1,466.5 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินธุรกิจรวม 1,146.2 ล้านบาท เติบโตขึ้น 1,217.5 ล้านบาท หรือ 1,707% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนอยู่ 71.3 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงจาก Bloomberg เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2564)
นอกจากนี้ จากยุทธศาสตร์การลงทุนของ EDL-Gen ที่มีเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้ากระจายไปยังลุ่มน้ำต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ทำให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถบริหารจัดการด้านการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานน้ำด้วยประสิทธิภาพสูงสุดทั้งในช่วงฤดูกาลน้ำแล้ง และเก็บเกี่ยวประโยชน์สูงสุดจากช่วงที่มีปริมาณน้ำในลุ่มน้ำต่างๆ เพิ่มขึ้น ทำให้ผลการดำเนินงานของ EDL-Gen ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เติบโตจากความมั่นคงด้านการผลิตกระแสไฟฟ้ารองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าภายในประเทศตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และยังสามารถนำไฟฟ้าส่วนเกินที่ผลิตได้ไปจำหน่ายแก่ประเทศอื่นๆ เพื่อนำรายได้เข้า สปป.ลาวอีกด้วย
"ปีนี้ถือเป็นปีที่ดีของ สปป.ลาว ในการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดด้วยพลังงานน้ำที่ได้รับประโยชน์จากปรากฏการณ์ลานีญา ทำให้โรงไฟฟ้าแต่ละโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย รองรับปริมาณความต้องการใช้พลังงานภายในประเทศซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกปรับตัวขึ้น 6% ส่งผลดีต่อการดำเนินงานของ EDL-Gen ในช่วงเวลาเดียวกันที่คาดว่าจะมีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตอกย้ำความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด19" คุณวันแสง กล่าว
รองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน EDL-Gen กล่าวว่า บริษัทฯ ยังได้รับปัจจัยบวกที่ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานในปีนี้ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด จากการรับรู้รายได้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำจากเขื่อนน้ำงึม 2 (Nam Ngum 2) กำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งตามสัดส่วนถือหุ้นของ EDL-Gen รวม 153 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำไซยะบุรี (Xayaburi) กำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนถือหุ้นของ EDL-Gen รวม 257 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโครงการที่ EDL-Gen ลงทุนร่วมกับภาคเอกชนในการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ ได้เริ่มดำเนินการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ (COD) เรียบร้อยแล้ว และเริ่มรับรู้รายได้ตามสัดส่วนที่ EDL-Gen ถือหุ้น เข้ามาช่วยสนับสนุนผลประกอบการปีนี้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีก่อน ที่มีรายได้บริษัทฯรวมทั้งสิ้นประมาณ 5,956 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงจาก Bloomberg เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2564)
ล่าสุด EDL-Gen กำลังดำเนินการเตรียมแผนเสนอและออกหุ้นกู้ชุดใหม่ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางด้านการเงินของบริษัท โดยจะระดมทุนไปใช้คืนหุ้นกู้ชุดเดิมที่จะครบกำหนดในช่วงปลายปีนี้ พร้อมเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยได้มีส่วนร่วมในการลงทุนของโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดที่ผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานน้ำ สอดรับเมกะเทรนด์พลังงานของโลก อีกทั้งยังเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน มั่นคงและความเสี่ยงต่ำ ทำให้นักลงทุนมีแนวโน้มได้รับผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอต่อไป
ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย