วันที่ 25 สิงหาคม 2564 ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพในอุตสาหกรรมเป้าหมายเอสเคิร์ฟ ครั้งที่ 4/2564 ผ่านระบบ Video Conference เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน และพิจารณาแผนพัฒนาแรงงานและประสานการฝึกอาชีพในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (พ.ศ.2565 - 2570) ประกอบด้วยอุตสาหกรรมหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ โดยมีหม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล รองปลัดกระทรวงแรงงาน นางสาวจิราภรณ์ ปุญญฤทธิ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เข้าร่วมประชุม และนายธวัช เบญจาทิกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ทำหน้าที่เลขานุการ ณ ห้องประชุมสมชาติ เลขาลาวัณย์ ชั้น 10 อาคารกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
ศาสตราจารย์ นฤมล กล่าวว่า การประชุมในวันนี้เป็นการขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ของ 2 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่ได้ผ่านการ Workshops สำรวจความต้องการ และประชุมหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องเสร็จสิ้นแล้ว อุตสาหกรรมแรก ได้แก่ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม ประกอบด้วย กลุ่มผู้ผลิตหุ่นยนต์ กลุ่มผู้ใช้หุ่นยนต์ กลุ่มนักบูรณาการระบบ และกลุ่มผู้สร้างเครื่องจักรกลอัตโนมัติ ส่วนอุตสาหกรรมที่สอง ได้แก่ อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ ประกอบด้วย ด้านบริการลูกค้า ด้านการวิเคราะห์และวางแผน ด้านคลังสินค้าและการกระจายสินค้า ด้านการจัดซื้อและจัดหา ด้านเทคโนโลยีโลจิสติกส์ และด้านการขนส่ง โดยจะได้แต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานที่ดำเนินการด้าน New Skills / Up Skills / Re Skills ตลอดจนหน่วยฝึกอบรม เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์ต่อแรงงานได้อย่างยั่งยืน
ที่ประชุมได้เห็นชอบกับแผนพัฒนาแรงงานฯ ดังกล่าว และได้เสนอให้นำข้อสังเกตบางประการจากคณะอนุกรรมการฯ ไปปรับปรุงข้อมูล เพื่อให้มีความสมบูรณ์และเกิดประโยชน์ต่อการดำเนินงานตามแผนให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังได้เสนอให้มีการทบทวนข้อมูลจำนวนความต้องการแรงงานในแต่ละปีจากส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาแรงงานให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานต่อไป
"แม้ว่าสถานการณ์ของโควิด-19 จะยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง แต่แรงงานก็ยังคงต้องได้รับการพัฒนา เพื่อยกระดับฝีมือแรงงานให้เป็นแรงงานที่มีคุณภาพ มีทักษะที่สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง และมีโอกาสในการประกอบอาชีพได้ทันทีตามความต้องการของตลาดแรงงาน" รมช.แรงงาน กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: กระทรวงแรงงาน