นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย และ นายนพพร วิฑูรชาติ นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย ร่วมกล่าวว่า "สมาคมฯ ได้หารือร่วมกับภาคีเครือข่าย ในการเดินหน้าเปิดธุรกิจอย่างปลอดภัย และยกระดับมาตรการป้องกันและคัดกรองขั้นสูงสุด เพื่อเป็นการช่วยฟื้นฟูธุรกิจของผู้ประกอบการและร้านค้า ที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ ให้กลับมามีรายได้ และช่วยพยุงการจ้างงานของแรงงานในระบบค้าปลีกและบริการ เราทั้ง 2 สมาคมฯ มีความเชื่อมั่นว่าทางรอดของเศรษฐกิจไทย คือ การกลับมาเปิดธุรกิจอย่างปลอดภัย พร้อมการรองรับของระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง ผนึกกับการร่วมมือของทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ผู้ประกอบการ ร้านค้า และประชาชน ที่ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดและทำให้เกิดขึ้นได้จริงจะช่วยให้การเปิดเมือง เปิดห้างในครั้งนี้ ไม่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และต้องกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง"
"เราเริ่มเห็นสัญญาณบวกจากการที่รัฐบาลสามารถนำวัคซีนเข้ามาได้ในปริมาณที่มากขึ้นและเพียงพอ มีการจัดหา ATK (Antigen Test Kit) เพื่อเป็นการคัดกรองผู้ติดเชื้อได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น ทั้งยังเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดหาและการกระจายวัคซีน มีการจัดระเบียบให้ประชาชนและชุมชนดูแลกันเอง รวมกับการติดเชื้อรายใหม่มีจำนวนที่ลดลง และจำนวนของผู้หายป่วยมากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง ประชาชนทุกคนมีความรับผิดชอบในตนเองและสังคม ทำให้มีการเปิดเมือง และ เปิดห้างได้อย่างปลอดภัย ปัจจัยทั้งหมดนี้จะเป็นความหวังที่ทำให้ประเทศไทยกลับมาฟื้นตัว และทุกคนสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้อีกครั้ง" นายญนน์ กล่าวเสริม
ทั้ง 2 สมาคมฯ พร้อมดำเนินการตามเกณฑ์และเงื่อนไขในการปฏิบัติเข้มข้นขั้นสูงสุด โดยมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามมาตรการของ ศบค. ดังต่อไปนี้
1) ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ สามารถเปิดดำเนินการได้ทุกแผนก และปิดบริการเวลา 20.00 น.
2) ห้ามจัดกิจกรรมมากกว่า 25 คน
3) ร้านอาหาร เปิดได้ตามเงื่อนไข ดังนี้
- ร้านอาหารที่อยู่นอกอาคาร หรือในอาคารแต่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ มีลักษณะโล่ง และอากาศถ่ายเทได้ดี ให้นั่งรับประทานได้ 75% ของจำนวนที่นั่งปกติ
- ร้านอาหารที่เป็นห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ ให้นั่งรับประทานได้ 50% ของจำนวนที่นั่งปกติ
- งดจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน
4) ร้านเสริมสวย เปิดให้บริการไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อคน ต้องมีการนัดหมายก่อนเข้าใช้บริการ
5) ร้านนวด เปิดได้เฉพาะนวดเท้า
6) คลินิกเสริมความงาม เปิดจำหน่ายสินค้าเท่านั้น (ตามมาตรการของ ศบค.)
7) กลุ่มธุรกิจที่ยังไม่เปิดให้บริการ มีดังนี้
- สถาบันกวดวิชา
- โรงภาพยนตร์
- สปา
- สวนสนุก สวนน้ำ
- ฟิตเนส ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ
- ห้องประชุมจัดเลี้ยง
8) ผู้ให้บริการ และผู้รับบริการ ต้องดำเนินการตามมาตรการการป้องกันโรค D-M-H-T-T ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารสุข และประเมินตนเองผ่าน Thai Stop Covid Plus รวมทั้งคัดกรอง ผู้ให้บริการผ่าน Platform Thai Safe Thai ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และต้องปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. ที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
9) สำหรับการเปิดห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ รวมถึงร้านค้าในศูนย์การค้าฯ ต่างๆ ในวันที่ 1 กันยายนนี้ ขอให้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้ประกอบการ และร้านค้าแต่ละรายเป็นหลัก
10) หากมีประกาศของจังหวัดอื่นใด นอกเหนือจากนี้ให้ปฏิบัติตามประกาศของจังหวัดนั้นๆ
สมาคมผู้ค้าปลีกไทย และ สมาคมศูนย์การค้าไทย ยืนยันที่จะปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐ และ ศบค. อย่างเต็มกำลัง เพื่อการเปิดเมือง เปิดห้างอย่างปลอดภัย และร่วมผลักดันเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวผ่านวิกฤตโควิดครั้งนี้ไปให้ได้
ที่มา: สมาคมผู้ค้าปลีกไทย