บลจ.ไทยพาณิชย์ แนะเสริมทัพพอร์ตด้วยหุ้นโครงสร้างพื้นฐานกับกองทุน SCBGIF และ SCBRMGIF เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน

จันทร์ ๓๐ สิงหาคม ๒๐๒๑ ๑๑:๑๐
นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกที่มีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยกลับสู่สภาวะปกติ โดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้วที่กระจายวัคซีนครอบคลุมประชากรในระดับสูง ซึ่งคาดว่าในระยะถัดไปจะยังคงได้รับปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้ว ทำให้สามารถขยายตัวได้เหนือกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้แนะนำกองทุนสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงสูงและต้องการลงทุนในบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก รวมถึงนักลงทุนเพื่อต้องการสิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งนักลงทุนสามารถซื้อได้ในทุกช่องทางรวมถึงผู้สนับสนุนการขายทุกราย ได้แก่

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ อิควิตี้ (SCB Global Infrastructure Equity Fund : SCBGIF) เป็นกองทุนประเภท Active เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ DWS Invest Global Infrastructure (กองทุนหลัก) ชนิดหน่วยลงทุน (share class) IDH (P) ในสกุลเงินยูโร บริหารงานภายใต้ความดูแลของ DWS Investment GmbH มีนโยบายลงทุนในหุ้นของผู้ประกอบธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก อย่างน้อยร้อยละ 70 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน โดยกองทุนหลักจะลงทุนในหุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก ที่ลักษณะรายได้ของธุรกิจมีแนวโน้มการปรับตัวไปกับเงินเฟ้อ จึงเสมือนเป็นการป้องกันเงินเฟ้อให้กับเงินลงทุน สำหรับโครงสร้างพื้นฐานฯ ที่ลงทุนนั้นจะเป็นสินทรัพย์หรือการให้บริการที่เป็นสิ่งจำเป็น รวมถึงการลงทุนที่มีการควบคุมหรือการผูกขาดทั้งจากภาคเศรษฐกิจ เช่น การขนส่ง สาธารณูปโภค พลังงาน คลังสินค้า โทรคมนาคม และภาคเอกชน เช่น สิ่งอำนวยความสะดวกทางการศึกษา สิ่งอำนวยความสะดวกทางสุขภาพ สิ่งอำนวยความสะดวกทางการพิจารณาคดี เป็นต้น ทั้งนี้ กองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ตามความเหมาะสมสำหรับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการลงทุน

สำหรับกองทุน SCBGIF เป็นกองทุนที่ติดอันดับจากมอร์นิ่งสตาร์ในทุก Share Class ทั้งยังเป็นกองทุนที่สามารถทยอยลงทุนได้ในทุกช่วงสภาวะของตลาด และเหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ เนื่องจากจะมีสัดส่วนของการลงทุนในหุ้นผสมอยู่แต่มีโอกาสการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาวสูงกว่า โดยบริษัทฯ ได้เปิดให้นักลงทุนได้เลือกลงทุนถึง 3 Share Class ได้แก่ (1) SCBGIF - ชนิดรับซื้อคืนอัตโนมัติ มีกำหนดรับซื้อคืนไม่เกินปีละ 2 ครั้ง (2) SCBGIFP - ชนิดผู้ลงทุนกลุ่ม/บุคคล โดยทั้ง SCBGIF และ SCBGIFP จัดเป็นกองทุน 4 ดาว ประเภท Thailand Fund Global Infrastructure ของมอร์นิ่งสตาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค. 2564) และ (3) SCBRMGIF - ชนิดกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ จัดเป็นกองทุน 5 ดาว ประเภท Thailand Fund Global Infrastructure ของมอร์นิ่งสตาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค. 2564) ?

"นับตั้งแต่ต้นปีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยกลับสู่สภาวะปกติ โดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้วที่การกระจายวัคซีนครอบคลุมประชากรในระดับสูง สำหรับในระยะถัดไปคาดว่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก จะยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วที่ยังคงสามารถขยายตัวได้เหนือกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ประกอบกับความเสี่ยงจากการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 กลายพันธุ์อย่างเดลต้า จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไม่มากนัก รวมถึงการผ่านร่างงบประมาณลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 4 จะเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติมอีกด้วย นอกจากนี้ ยังคาดว่าอัตราดอกเบี้ยโลกจะทรงตัวในระดับต่ำต่อไป จากการคาดการณ์ของคณะกรรมการตลาดเสรีกลาง (Federal Open Market Committee หรือ FOMC) ที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ อาจเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2023 ในขณะที่ธนาคารกลางยุโรป และญี่ปุ่นยังคงอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบเศรษฐกิจต่อเนื่อง

นอกจากนี้ อีกหนึ่งปัจจัยที่น่าจับตา คือ อัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยจากรายงานของ JP Morgan พบว่าในเดือนมิ.ย. ปริมาณพันธบัตรรัฐบาลทั่วโลกกว่า 39.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือมากกว่า 90% ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งโดยปกติผลประกอบการของกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกจะสามารถปรับขึ้นได้ตามอัตราเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่ยังคงต้องจับตาได้แก่ ตราสารหนี้ระยะยาวที่อาจมีความผันผวนมากขึ้นจากการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ และมาตรการควบคุมกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก ผันผวนสูงขึ้นได้เช่นกัน" นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้ยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน RMF/SSF กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน รวมถึงควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ ได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ บลจ.ไทยพาณิชย์ โทร. 02-777-7777 กด 0 กด 6 หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย สนใจเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click ได้ที่ https://scbam.info/3dEjSFD

ที่มา: หลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO