ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เป็นประธานเปิดศูนย์พักคอยสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 (Community Isolation: CI) "ซีพี-รามคำแหง-นพรัตน์ราชธานี" ณ อาคารโรงยิมเนเซียม 1 ภายในมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง พร้อมด้วย นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมต้อนรับ และมีผู้แทนภาคีเครือข่าย ได้แก่ นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ และนายแพทย์สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ร่วมในพิธี เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2564 ณ อาคารพิริยราม ชั้น 2
โอกาสนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ที่รอเข้ารับการรักษาในระบบจากโรงพยาบาล มหาวิทยาลัยรามคำแหงจึงได้ประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี และบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสำนักงานเขตบางกะปิ ในการจัดตั้งศูนย์พักคอยสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อช่วยดูแลรักษาในเบื้องต้นแก่ผู้ติดเชื้อที่รอเข้ารับการรักษาในระบบ โดยใช้อาคารยิมเนเซียม 1 บริเวณใกล้ประตูทางออกด้านหลัง ม.ร. เป็นสถานที่ดำเนินการ ซึ่งสามารถรองรับผู้ป่วยได้ 170 เตียง และหากมีความจำเป็นที่จะต้องขยายเพิ่มเติม ทางมหาวิทยาลัยและภาคีเครือข่ายพร้อมจะดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการปรับปรุงด้านสถานที่ และสภาพแวดล้อมต่างๆ เพื่อให้มีความพร้อมในการเป็นศูนย์พักคอยสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข และได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ในการจัดทีมแพทย์-พยาบาล เพื่อดูแลรักษาและเฝ้าสังเกตอาการของผู้ติดเชื้อในศูนย์พักคอย โดยสำนักงานเขตบางกะปิ และโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี จะเป็นผู้พิจารณากลั่นกรอง รายชื่อผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่จะเข้าพักรักษาตัว ณ ศูนย์พักคอย มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ด้าน นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ยินดีที่ภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ประสานความร่วมมือกับทีมบุคลากรทางการแพทย์ในการต่อสู้กับสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ซึ่งการจัดตั้งศูนย์พักคอยสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการช่วยรองรับผู้ติดเชื้อที่มีเป็นจำนวนมาก กรมการแพทย์ยินดีให้การสนับสนุนทีมบุคลากรทางการแพทย์ โดยมอบโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ประสานความร่วมมือภาครัฐ เอกชน ระดมจัดสรรทรัพยากรร่วมกัน รวมทั้งเป็นศูนย์ประสานรับส่งต่อเมื่อเกิดภาวะฉุกเฉินด้วย
นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19ที่ยังคงระบาดรุนแรงต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โรงพยาบาลสนามมีไม่เพียงพอรองรับจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อให้มีจำนวนเตียงเพียงพอที่จะรองรับผู้ป่วยโควิด-19 เครือเจริญโภคภัณฑ์จึงมีนโยบายสร้างโรงพยาบาลสนามและศูนย์พักคอยเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งวันนี้ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยรามคำแหง โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี สร้างศูนย์พักคอยสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ขึ้นที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าศูนย์พักคอยแห่งนี้ จะช่วยแบ่งเบาภาระด้านสาธารณสุขของประเทศ และขอขอบพระคุณ กรมการแพทย์ สำนักสวัสดิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย สำนักงานเขตบางกะปิ ที่ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันเปลี่ยนโรงยิมเนเซียม 1 ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ให้เป็นศูนย์พักคอยสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อสร้างประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมในยามที่กำลังเผชิญกับความยากลำบากนี้
นายแพทย์สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กล่าวว่า ภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมเปิดศูนย์พักคอยสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งเป็นแห่งที่ 3 ที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานีเข้ามาช่วยในเรื่องการจัดทีมแพทย์-พยาบาล เพื่อดูแลรักษาและเฝ้าสังเกตอาการของผู้ติดเชื้อในศูนย์พักคอย ถือเป็นการให้บริการเชิงรุกของโรงพยาบาล ช่วยสกัดกั้นไม่ให้เกิดภาวะของโรคที่รุนแรงมากขึ้น
ขอบคุณมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ความห่วงใยสังคมและประชาชน และเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ช่วยส่งเสริมสังคมและประชาชนไทยมาโดยตลอด ตลอดจนสำนักสวัสดิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย สำนักงานเขตบางกะปิ และจิตอาสาทุกภาคส่วน ที่ร่วมสนับสนุนและเป็นกำลังต่อสู้กับวิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้ด้วย
จากนั้น ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม กล่าวในพิธีเปิดว่า วิกฤตการณ์โควิด-19 ทำให้เห็นถึงความเข้มแข็ง ความรัก สามัคคี และการช่วยเหลือ สนับสนุนซึ่งกันและกันของภาครัฐและเอกชน ที่พร้อมจะร่วมมือกันทำให้ประโยชน์ในด้านต่างๆที่ให้แก่ประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19 และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวในประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤติไปได้
"ขอชื่นชมมหาวิทยาลัยรามคำแหง ถือเป็นมหาวิทยาลัยของประชาชนอย่างแท้จริง นอกจากจะผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพออกไปรับใช้สังคมในทุกวงการอาชีพแล้ว ยังมีจิตใจช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤติ โดยครั้งนี้ได้เปิดพื้นที่อาคารโรงยิมเนเซียม 1 ให้ใช้จัดตั้งศูนย์พักคอย "ซีพี-รามคำแหง-นพรัตน์ราชธานี" พร้อมประสานความร่วมมือกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในการปรับปรุงพื้นที่ และดำเนินการด้านสิ่งของ อุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ในการจัดทีมแพทย์-พยาบาล เพื่อดูแลรักษาและเฝ้าสังเกตอาการของผู้ติดเชื้อในศูนย์พักคอย และสำนักสวัสดิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย สำนักงานเขตบางกะปิ และจิตอาสาทุกภาคส่วน ร่วมสนับสนุน ทุ่มเทแรงกายแรงใจสู้กับวิกฤติโควิด-19 ไปด้วยกัน"
ทั้งนี้ ภายในงานมีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือในการสร้างศูนย์พักคอยในชุมชน (Community Isolation หรือ CI) ระหว่างมหาวิทยาลัยรามคำแหง โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ที่รอเข้ารับการรักษาในระบบ สามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างทันท่วงที
หลังจากนั้น ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ตลอดจนผู้แทนจากภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน เยี่ยมชมสถานที่ปฏิบัติงานของแพทย์และพยาบาล ศูนย์พักคอยสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 (Community Isolation: CI) ณ อาคารโรงยิมเนเซียม 1 และชมการสาธิตการรับผู้ป่วยเข้าศูนย์พักคอยด้วย
สำหรับผู้ป่วยโควิดที่ต้องการเข้าพักที่ศูนย์พักคอยสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 (Community Isolation: CI) "ซีพี-รามคำแหง-นพรัตน์ราชธานี"สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ศูนย์โควิดมหาวิทยาลัยรามคำแหง โทร. 0-2310-8101 หรือที่ Call Center สายด่วน 1330 สปสช. และ "สายด่วนโควิด" ของเขตบางกะปิ 0-2483-5001
ที่มา: มหาวิทยาลัยรามคำแหง