นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) และผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร (ขนส่งทางน้ำ-ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้า)เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจในครึ่งหลังว่า AGE ยังคงเดินหน้าปรับกลยุทธ์ ทางธุรกิจเชิงรุกในธุรกิจโลจิสติกส์แบบครบวงจรอย่างต่อเนื่อง ภายหลังการเข้าไปบริหารจัดการท่าเรือ เพิ่มอีก 3 ท่าในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ปัจจุบันมีท่าเรือที่รองรับการให้บริการขนส่งทางน้ำรวมทั้งหมด 6 ท่า บริเวณอำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ช่วยหนุนให้ AGE มีความสามารถรองรับปริมาณการขนส่งผ่านท่าเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 7 ล้านตันต่อปี
นอกจากนี้ AGE ยังเดินหน้าลงทุนขยายกองรถบรรทุกเป็นกว่า 100 คัน ในปี 2564 จากที่ปัจจุบันมีรถบรรทุกอยู่ 68 คัน และมีรถบรรทุกเป็นพันธมิตรผู้รับจ้างงานช่วง (Sub-contractor) อีก 400-500 คัน รวมถึงขยายกองเรือโดยการเช่าและการหากองเรือพันธมิตร Sub-contractor เพื่อเพิ่มปริมาณบรรทุกสินค้า เป็น 200,000 ตัน จากที่ปัจจุบัน AGE มีกองเรืออยู่ 36 ลำ ปริมาณการบรรทุกสินค้ารวมกว่า 100,000 ตัน เพื่อรองรับปริมาณการขนส่ง ทั้งถ่านหิน และสินค้าในกลุ่มทรายแก้วเพื่อผลิตขวด, กระดาษ, ไม้สับ, ขี้เลื่อย และกะลาปาล์ม เป็นต้น ซึ่งจะหนุนให้รายได้จากธุรกิจการขนส่งโลจิสติกส์ ในอนาคตเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงการเป็นผู้นำด้านการขนส่งด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจรในประเทศ
" AGE ขยายธุรกิจด้านโลจิสติกส์เต็มรูปแบบ ทั้งการให้บริการขนส่งทางน้ำ-ทางบก รวมถึงการให้บริการท่าเทียบเรือ และให้บริการพื้นที่จัดเก็บสินค้า รวมถึงการขยายการรับขนส่งสินค้าในกลุ่มสินค้าเทกอง หรือ รวมกอง (Bulk Cargo) อาทิ สินค้าเกษตร ปุ๋ย แร่เหล็ก วัสดุก่อสร้าง และกำมะถัน เป็นต้น และในอนาคตบริษัทฯจะขยายการขนส่งกลุ่มสินค้าอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ สินค้าอันตราย สินค้าที่เป็นของเหลว และสินค้าใช้ตู้คอนเทนเนอร์ ดังนั้นจากแผนดังกล่าวบริษัทฯเชื่อว่าจะส่งผลให้บริษัทฯมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจการขนส่ง โลจิสติกส์ในปี 2564 ประมาณ 1,000 ล้านบาท"
ในขณะที่ภาพรวมของธุรกิจถ่านหินนั้น ประธานกรรมการบริหาร AGE กล่าวเพิ่มเติมว่า ในไตรมาส4 ของทุกปีจะเป็นช่วงไฮซีซั่น โดยเป็นช่วงที่มีปริมาณการใช้ถ่านหินสูงที่สุด ดังนั้นเชื่อว่าดีมานด์ของออเดอร์ถ่านหินจะเข้ามาอย่างโดดเด่น ส่งผลให้ปริมาณยอดขายถ่านหินในปีนี้ยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยตั้งเป้ายอดขายที่ 5.5 ล้านตัน แบ่งเป็นยอดจำหน่ายในประเทศ 5 ล้านตัน และต่างประเทศ 5-7 แสนตัน ซึ่งเป็นผลจากภาพรวมการส่งออกในภูมิภาคกลับมาฟื้นตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หนุนให้ความต้องการใช้ถ่านหินขยับเพิ่มขึ้นตามการใช้กำลังการผลิตของอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม ประเทศใต้หวัน ประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศจีน ส่งผลให้ทั้งปี AGE ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้รวมไว้ที่ระดับ 11,000 ล้านบาท ตามแผนธุรกิจที่วางไว้
ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์