นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า หลังจากมีการคลายล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 บริษัทฯ มีความพร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ด้วยมาตรการทางสาธารณสุขที่เข้มข้น พร้อมสนับสนุนให้พนักงานของบริษัททยอยฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าที่กลับมาใช้บริการ
ปัจจุบันโรงแรมในเครือ AWC ทั้ง 18 แห่งได้รับการรับรองตราสัญลักษณ์ Amazing Thailand Safety & Health Administration หรือ SHA แสดงให้เห็นถึงคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าและบริการที่ใส่ใจความปลอดภัยตามการท่องเที่ยวแบบ New Normal นอกจากนี้ ยังได้มาตรฐานของเชนบริหารระดับโลก ซึ่งให้ความสำคัญและเข้มงวดในเรื่องความสะอาด สุขอนามัย และความปลอดภัยของแขกผู้มาใช้บริการ
โดยตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา โรงแรมในเครือได้กลับมาเปิดให้บริการ เพื่อต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยว บริษัทได้จัดเตรียมแพ็กเกจการท่องเที่ยวที่หลากหลายในทุกโรงแรม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแพ็กเกจ Work from Hotel, Staycation การเปิดให้บริการร้านอาหารภายในโรงแรม โดยสามารถนั่งรับประทานอาหารภายในร้านได้ 50% ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด โดยมีบริการสั่งอาหารด้วยเมนูระดับโรงแรม รวมถึงเมนูซิกเนเจอร์สุดพรีเมียมส่งตรงถึงบ้านลูกค้า นอกจากนี้ยังเปิดให้บริการสปาเฉพาะส่วนการนวดเท้าพร้อมโปรโมชั่น รวมทั้งสระว่ายน้ำภายในโรงแรม โดยหวังว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์การพักผ่อนที่น่าประทับใจกลับไป
"บริษัทและโรงแรมในเครือต่างตื่นเต้นที่จะได้ต้อนรับลูกค้าอีกครั้ง หลังประกาศคลายล็อกดาวน์ เราเริ่มเห็นยอดจองโรงแรมและร้านอาหารในเครือ AWC กลับมาในทันที โดยเฉพาะโรงแรมในกรุงเทพฯ และหัวหิน อย่างโรงแรม แมริออท หัวหิน ขณะนี้ทางโรงแรมในกลุ่มได้จัดเตรียมโปรโมชั่นต่างๆ ไว้รองรับ เพื่อกระตุ้นให้เกิดจับจ่ายใช้สอย และเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศไปด้วยกัน ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะส่งผลให้อัตราการเข้าพักในโรงแรม (Occupancy Rate) และรายได้ของบริษัทในไตรมาส 4 เป็นไปในทิศทางบวก" นางวัลลภา กล่าว
สำหรับแพ็กเกจ โปรโมชั่นต่างๆ มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งห้องพัก และร้านอาหารจากโรงแรมชั้นนำ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และนักท่องเที่ยวในทุกกลุ่ม ไมว่าจะเป็นการสัมผัสโรงแรงระดับลักซ์ชัวรี่ ในราคาสุดพิเศษ โดยโรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล ได้จัดโปรโมชั่นให้ลูกค้าเปิดประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟแบบส่วนตัว ทั้งการพักผ่อนในห้องพักหรู พร้อมบริการสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ นั่งรับประทานอาหารแบบส่วนตัว โดยมีเมนูจากห้องอาหารของโรงแรม รวมถึงห้องทำงานสำหรับผู้บริหาร และห้องครัวสำหรับการปรุงอาหารเองแบบส่วนตัว ฯลฯ
ขณะที่หลายโรงแรงมีการจัดโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับ Workation หรือ Staycation ที่กำลังได้รับความนิยม ตอบโจทย์คนที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานจากที่บ้าน มาทำงานในห้องพักโรงแรม อาทิ โรงแรมแบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์ กับแคมเปญ Stay for 7 Pay for 5 ในราคาสุดคุ้ม 1,682 บาทต่อคืน รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน กรณีพัก 2 คนเหลือเพียงแค่ 841 บาทต่อคนต่อคืนเท่านั้น! จองและเข้าพักถึงวันที่ 30 กันยายน 2564
นอกจากนี้ โรงแรมในเครือ AWC ยังมุ่งตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่คิดถึงการได้เดินทางท่องเที่ยว หรือการรับประทานทานอาหารแสนอร่อยในต่างประเทศ ขณะที่การเดินทางยังไม่สามารถทำได้ ก็สามารถมาสัมผัสกลิ่นอายและบรรยากาศได้ในหลายโรงแรม อาทิ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ญี่ปุ่น โดยจัดโปรโมชั่นสุดพิเศษ 9.9 Flash sales กับ 'แพ็คเกจ Gastronomic Indulgence' บนเว็บไซต์ Megatix ในราคาเพียง 5,900 บาทสุทธิต่อคืน สำหรับห้องดีลักซ์ ไม่รวมอาหารเช้า พร้อมรับเครดิตมูลค่า 5,900 บาทต่อคืน เพื่อใช้แทนเงินสดในการใช้จ่ายสำหรับค่าอาหารและเครื่องดื่ม ฯลฯ โดยจำหน่ายบัตรกำนัลตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 11 กันยายน 2564 และสามารถเข้าพักได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 หรือจะเป็นโรงแรมมีเลีย เชียงใหม่ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ประเทศสเปน ซึ่งวางแผนจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2564 เตรียมจัดโปรโมชั่นพิเศษ MELI? ROOM 1 คืน ฟรี 1 คืน ราคาโปรโมชั่นราคา 4,999 บาท รวมอาหารเช้า รถรับส่งสนามบิน เครื่องดื่มค็อกเทลและอาหารว่างแบบสเปน (Tapas) 1 ครั้ง และส่วนลด 20% สำหรับร้านอาหาร เป็นต้น
นางวัลลภา กล่าวว่า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและนักท่องเที่ยวในการเข้าใช้บริการมากยิ่งขึ้น AWC ยังมีการจัดทำแผนแม่บท The Core 5 for Safety and Clean" เพื่อดูแลพนักงาน ผู้เช่า และลูกค้า ประกอบด้วย 1. Secure Screening การคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิทุกคนที่เข้ามาพื้นที่และสแกนแอปพลิเคชันไทยชนะก่อนเข้าใช้บริการทุกครั้ง 2. Social Distancing" การเว้นระยะห่างและบริหารจัดการปริมาณการรวมกลุ่มของคน 3. Super Hygienic Cleaning การให้ความสำคัญกับสุขอนามัย ทำความสะอาดอุปกรณ์พื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อยทุกชั่วโมง และพื้นที่สาธารณะทุก 2 ชั่วโมง 4. Support Care Service การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องด้านสุขอนามัยแก่ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และ 5. Safety Trace การจัดเก็บฐานข้อมูล นอกจากการคัดกรองผู้ใช้บริการผ่านแอปไทยชนะยังพัฒนาแอปพลิเคชันขึ้นมาโดยเฉพาะอีกด้วย
ที่มา: แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น