นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) กล่าวว่า ผักตบชวาและวัชพืชจัดเป็นสิ่งกีดขวางทางน้ำที่เป็นอุปสรรคในการระบายน้ำ ก่อให้เกิดปัญหาน้ำเน่าเสีย แหล่งน้ำตื้นเขิน ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่ใช้ชีวิตเกี่ยวพันกับสายน้ำ ดังนั้นรัฐบาลจึงให้ความสำคัญและเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาในเรื่องการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมในส่วนของการจัดการแหล่งน้ำ การบริหารจัดการน้ำ สำรวจสิ่งก่อสร้างที่กีดขวางทางน้ำ และการจัดการปัญหาผักตบชวาและวัชพืชต่าง ๆ พร้อมเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนบูรณาการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาให้เห็นผลเป็นรูปธรรมและมีความยั่งยืน
สำหรับหนองกุดตากล้า บ้านพัฒนาภิบาล ตำบลเซกา อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ เป็นหนองน้ำสาธารณะที่มีความสำคัญในการผลิตน้ำประปาของชุมชนเซกา และน้ำประปาของโรงพยาบาลเซกา ปัจจุบันได้รับผลกระทบจากการขยายตัวของวัชพืชต่าง ๆ โดยเฉพาะจอกหูหนูยักษ์ ทำให้แหล่งน้ำไม่มีคุณภาพสำหรับการผลิตน้ำประปา จึงขอให้ทุกหน่วยงานบูรณาการเครื่องมือ เครื่องจักรร่วมกับผู้นำชุมชน ประชาชน บริหารจัดการวางแผนอนุรักษ์ฟื้นฟูหนองกุดตากล้า รวมทั้งดูแลรักษาแม่น้ำ ลำคลอง แหล่งน้ำในพื้นที่ เพื่อให้แม่น้ำ ลำคลอง แหล่งน้ำ อยู่คู่กับหมู่บ้าน ชุมชนตลอดไป และขอชื่นชมผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ได้ร่วมมือกันกำจัดผักตบชวาและวัชพืชมาอย่างต่อเนื่อง
นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า กรมฯ เร่งกำจัดผักตบชวาและวัชพืชตามข้อสั่งการของรัฐบาลพร้อมสนับสนุนเรือกำจัดผักตบชวาและวัชพืช เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวทั่วประเทศ สำหรับจังหวัดบึงกาฬ ได้มอบหมายให้ นายพิสิษฐ์ ชิณะวิพัฒน์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดบึงกาฬ เป็นผู้รับผิดชอบ โดยล่าสุดได้ส่งเรือกำจัดผักตบชวาแบบสายพานลำเลียง จำนวน 2 ลำ ปฏิบัติงานร่วมกับเครื่องจักรรถแบ็คโฮขององค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน จิตอาสา ประชาชนตำบลเซกาและพื้นที่ใกล้เคียง กำจัดผักตบชวาและจอกหูหนูยักษ์ในหนองกุดตากล้า พื้นที่ประมาณ 150 ไร่ ซึ่งมีผักตบชวาและจอกหูหนูยักษ์สะสมมากกว่า 90 ไร่ ทั้งนี้จะดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อรักษาคุณภาพน้ำไม่ให้เน่าเสียและอยู่ในค่ามาตรฐานที่สามารถผลิตน้ำประปาของชุมชนได้ พร้อมทั้งรักษาระบบนิเวศในแหล่งน้ำให้เกิดความสมดุล เพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ ป้องกันปัญหาน้ำท่วม และเป็นแหล่งกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งอีกด้วย
ที่มา: กรมโยธาธิการและผังเมือง