นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ต้อนรับ บมจ. บลูบิค กรุ๊ป เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ภายใต้กลุ่มเทคโนโลยี โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "BBIK" ในวันที่ 16 กันยายน 2564
BBIK และบริษัทย่อย ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ และการจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยี และธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยมุ่งเน้นการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาธุรกิจ สร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่องค์กร แบ่งการให้บริการได้ 5 ประเภท ได้แก่ 1) การให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการ 2) การบริหารโครงการเชิงยุทธศาสตร์ 3) การพัฒนาระบบดิจิทัลและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี 4) การจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และการวิเคราะห์ข้อมูลชั้นสูงด้วยปัญญาประดิษฐ์ และ 5) การจัดหาและบริหารบุคคลากรชั่วคราว ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ มีกลุ่มลูกค้าหลักคือ กลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 บริษัทได้ร่วมกับบริษัทในเครือ บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) จัดตั้ง บริษัท ออร์บิท ดิจิทัล จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจให้คำปรึกษา ออกแบบ พัฒนา ดูแลรักษาระบบและแอปพลิเคชั่นของบริษัทในเครือ OR รวมถึงการหารายได้โดยการใช้ประโยชน์ของข้อมูล เพื่อขยายผลนำข้อมูลที่เป็นทรัพยากรขององค์กรไปใช้ต่อยอดทางธุรกิจ
BBIK มีทุนชำระแล้ว 50 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 75 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 25 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน แก่บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 12.5 ล้านหุ้น ผู้ลงทุนสถาบัน 6.25 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัท 3.75 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย 2.5 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 8-10 กันยายน 2564 ในราคาหุ้นละ 18 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 450 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,800 ล้านบาท การกำหนดราคาเสนอขาย IPO มาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนสถาบัน (Book building) ซึ่งกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 18 บาทต่อหุ้น มีอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 37.49 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ไตรมาส 3/2563-ไตรมาส 2/2564) ซึ่งเท่ากับ 48.02 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.48 บาทต่อหุ้น โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน มีบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็น ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บลูบิค กรุ๊ป (BBIK) เปิดเผยว่า บริษัทมีทีมบุคลากรคุณภาพที่มีประสบการณ์ความรู้ความเชี่ยวชาญทั้งด้านธุรกิจและด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่สามารถให้คำแนะนำแก่ลูกค้าในการเตรียมความพร้อมทางธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในอุตสาหกรรม เพื่อให้องค์กรเติบโตได้อย่าง
ยั่งยืน โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนว่าจ้างบุคลากรและเสริมสร้างทักษะด้านเทคโนโลยีให้กับบุคลากรเพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจของกลุ่มบริษัท พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล พัฒนาและปรับปรุงซอฟต์แวร์สำหรับใช้งานภายในองค์กร ขยายพื้นที่สำนักงาน ลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
BBIK มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มอารยะการกุล ถือหุ้น 27.25% บริษัท บลูบิค กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 25% และกลุ่มเจียมสกุลทิพย์ ถือหุ้น 15.27% กลุ่มบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท ภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองต่าง ๆ ตามกฎหมาย
รายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.bluebik.com และ www.set.or.th
ที่มา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย