ปตท. - กฟผ. ลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติสำหรับโรงไฟฟ้าน้ำพอง สร้างความมั่นคงทางพลังงาน เสริมรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ

อังคาร ๒๑ กันยายน ๒๐๒๑ ๐๙:๐๘
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) และ นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติสำหรับโรงไฟฟ้าน้ำพองฉบับใหม่ ระยะเวลา 10 ปี (2564 - 2574) มูลค่ากว่า 53,000 ล้านบาท เสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน เพิ่มขีดความสามารถการพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาในการดำเนินงานผลิตไฟฟ้า ของ กฟผ. ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งในการจัดหาก๊าซธรรมชาติจาก ปตท. เพื่อร่วมกันบริหารจัดการด้านความมั่นคงทางพลังงานของประเทศให้สำเร็จลุล่วงมาโดยตลอด ซึ่งสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติสำหรับโรงไฟฟ้าน้ำพอง ระหว่าง ปตท. และ กฟผ. ฉบับใหม่นี้ จะสอดรับกับสัญญาเดิมที่กำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 กันยายน 2564 เพื่อรองรับการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าน้ำพอง ชุดที่ 1 และ 2 ในปัจจุบัน และโครงการโรงไฟฟ้าน้ำพองทดแทน จ.ขอนแก่น กำลังผลิต 650 เมกะวัตต์ ที่มีกำหนดเริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในปี 2568 ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561 - 2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP2018 Revision 1) เพื่อรักษาความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และใช้ทรัพยากรก๊าซธรรมชาติของประเทศจากแหล่งสินภูฮ่อมให้เกิดประโยชน์สูงสุด

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. กล่าวว่า ปตท. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมลงนามสัญญาเพื่อจัดหาก๊าซธรรมชาติให้แก่ กฟผ. เพื่อใช้ในโรงไฟฟ้าน้ำพอง ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดและถือเป็นแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้าหลักของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สอดคล้องกับพันธกิจของ ปตท. และ กฟผ. ในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าน้ำพองจะเป็นรากฐานสำคัญที่จะรองรับการเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ อาทิ โครงการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) โครงการสมาร์ทซิตี้ จ.ขอนแก่น โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงกับพื้นที่เศรษฐกิจหลักภาคกลางและพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)

ความร่วมมือของทั้ง ปตท. และ กฟผ. ในครั้งนี้ เป็นอีกครั้งในการดึงศักยภาพและความเชี่ยวชาญของ ปตท. ที่มีประสบการณ์ด้านการจัดหาและบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากว่า 40 ปี และ กฟผ. ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตไฟฟ้า เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในความมั่นคงทางพลังงานและสามารถพัฒนาความเป็นอยู่จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ

ที่มา: ปตท.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๔๗ เอ. เจ. พลาสท์ คว้า 2 รางวัลใหญ่ จาก SET Awards 2024 และได้รับการประเมิน CGR ดีเลิศ ระดับ 5 ดาว
๑๖:๑๓ เปิดมาตรการ พักหนี้ ลดดอกเบี้ย ช่วยเหลือ SMEs ถูกน้ำท่วมในงาน มันนี่ เอ็กซ์โป 2024 เชียงใหม่
๑๖:๓๙ หน้าหนาวมาเยือน! กรมอนามัยเตือนดูแลสุขภาพให้พร้อม เด็กเล็ก-ผู้สูงอายุเสี่ยงเจ็บป่วยง่าย
๑๖:๕๗ เปิดรันเวย์อวดผลงานไอเดียสร้างสรรค์ของ 5 ผู้ชนะรางวัลทุนการศึกษา จากโครงการ Jaspal Group Scholarship Program
๑๖:๐๘ กิฟฟารีน แนะนำไอเทมเด็ด กิฟฟารีน เอช เอ็ม บี พลัส วิตามินดี 3 สำหรับช่วยดูแลมวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
๑๕:๐๑ ไขข้อสงสัย สินเชื่อรถแลกเงินคืออะไร
๑๕:๓๘ ซื้อมอเตอร์ไซค์ ออกรถใหม่ มีขั้นตอนอย่างไร ต้องเตรียมอะไรบ้าง
๑๕:๐๕ ยางขอบ 17 ยี่ห้อไหนดีที่ขับขี่สนุก และยังคงนุ่มสบาย
๑๔:๕๖ heygoody คว้าแชมป์จากเวที Thailand Influencer Awards 2024 ตอกย้ำความเข้าใจลูกค้า Introvert
๑๔:๐๓ เมืองไทยประกันชีวิต คว้า 4 รางวัลใหญ่ระดับสากล ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล และเป็นองค์กรสถานประกอบการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการ